บ้านพักอาศัยปัจจุบันนิยมการวางท่อน้ำไว้ในพื้นดิน เผื่อง่ายต่อการดูแลรักษา และเป็นที่สวยงามไม่สะดุดตาให้รำคาญใจ เจ้าของบ้านหลาย ๆ ท่านโชคดีที่ช่างที่ทำไว้ล่วงหน้าใช้ท่อดี มีฝีมือ ในการทำจึงทำให้อายุการใช้งานของท่อน้ำ ยาวนานมีประสิทธิภาพสูง แต่สำหรับบ้านหรือที่พักบางหลัง ที่ต้องฉงนว่าค่าน้ำทำไมถึงได้แพงทั้งที่ เราก็ใช้น้ำน้อย และปิดวาล์วน้ำทุกครั้งที่ออกจากบ้าน แต่คงอาจจะลืมนึกไปว่า เมื่อเรากลับมาที่พักแล้วเปิดวาล์วน้ำน้ำที่มีรอยรั่วซึมอยู่ก็จะเริ่มทำงานเช่นกัน  แม้กระทั้งกลางคืนที่เราหลับ วาล์วน้ำก็ยังคงเป็ดอยู่    ก็คงไม่ต่างอะไรกับการเปิดน้ำทิ้งดี ๆ ทำให้ ค่าน้ำของเรานั้น แพงแบบไม่รู้สาเหตุ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าจุดไหนรั่ว จุดไหนซึม มีวิธีเช็คง่าย ๆ อย่างไร คำถามนี้เรามีคำตอบ

น้ำรั่วใต้พืั้น
น้ำรั่วใต้พืั้น

การเช็คว่าน้ำในบ้านรั่วหรือไม่ มีดังต่อไปนี้

1.    หยุดการใช้น้ำโดยการปิดก๊อกทุกตัวในบ้าน ปิดวาล์วน้ำ ทุก ๆ อุปกรณ์
2.    เช็คดูตามข้อต่อต่าง ๆ ที่สามารถจะมองเห็นได้  ถ้าเราเจอตรงไหนผิดสังเกต มีรอยน้ำหยดก็ รีบซ่อมทันที  ไม่ว่าจะแค่น้ำหยดมากหรือหยดน้อย ตรงนี้เป็นส่วนที่ทำให้เงินในกระเป๋าเราค่อย ๆ ซึมออกเหมือนน้ำเช่นกัน
3.    หลังจากการซ่อมบำรุงเสร็จ เช็คที่มิเตอร์น้ำดูว่า ยังมีการหมุนของตัวเลขอยู่หรือไม่ ถ้าตัวเลขมิเตอร์ไม่หมุนไม่เดินแปลว่าระบบน้ำไม่รั่ว แต่ถ้ายังคงหมุนเดินตลอดเวลา ทั้งที่ปิดหมดทุกๆ ก๊อกน้ำ และวาล์วน้ำ  นั้นแปลว่ามีส่วนที่น้ำรั่วอยู่ แล้วถ้าในส่วนที่เหลือหลังจากที่เราเช็ครอบบ้านแล้วไม่มี  ก็คงมีทางเดียวคือน้ำรั่วที่เกิดจากท่อที่ฝังอยู่ใต้ดิน ต้องหาวิธีแก้อย่างเร่งด่วนไม่เช่นนั้น  ค่าน้ำอาจจะบานปลายแบบไม่หยุด

สาเหตุของน้ำที่รั่วน่าจะมาจากท่อที่ฝังมาตามใต้ดิน 
ซึ่งอาจจะเกิดด้วยท่อหลุด ลืมใส่กาว เกิดจาการกดทับด้วยพื้นบ้าน รอยแตกของท่อที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือ สาเหตุต่าง ๆ  เราจะต้องหาจุดที่รั่ว หารอยน้ำที่ซึมออกมา ถ้าเราฝังท่อไว้ค่อนข้างลึก ผ่านกลางบ้านหรือ บริเวณขอบผนังบ้าน จะค่อนข้างหายากโอกาสเจอจะน้อย ถ้าน้ำไม่ดันตัวออกมาให้เจอ แต่แล้วถ้าเจอ เราจะทุบพื้นตัดต่อรอยรั่วตรงที่เจอก็อาจจะเป็นเรื่องยากเพราะค่าเจาะค่าทุบรวมถึงค่าที่จะต้องทำพื้นใหม่ อาจจะแพงกว่าการที่เราวางท่อใหม่เสียอีก  วิธีแก้แบบถาวรคงทนตลอดกาล มีวิธีแก้ทางเดียวคือการวางระบบท่อน้ำใหม่ ไม่เช่นนั้น น้ำที่รั่วซึมอยู่ตลอดเวลา จะค่อย ๆ กัดเซาะพื้นบ้านให้ เป็นโพรง และ ทำให้ตัวบ้านทรุดลงได้ จึงมีแค่การวางท่อน้ำใหม่เท่านั้น


วางท่อน้ำใหม่ควรวางแบบไหนถึงจะปลอดภัยที่สุด  
ถ้าเราจะวางท่อน้ำโดยปล่อยให้เห็นท่อก็คงจะไม่สวยนัก และ การที่ถูกการเผาของแดดนาน ๆ ก็สามารถทำให้ท่อน้ำเราเสื่อมอายุเร็วได้  ควรจัดวางท่อน้ำโดยวิธีการวางติดแนวรั่ว ฝั่งลงไปในดินไม่ลึกมาก แค่พอให้ พ้นแดดเล็กน้อย ไม่โพล่พ้นดินจนดูไม่งามตา  และควรจะวางแผนเผื่อว่าวันไหนเราต้องการที่จะต่อท่อสนามหรือ ทำก๊อกน้ำเพิ่มก็จะหาท่อไม่ยากนัก ตัดต่อได้สะดวก รวดเร็ว สวยงาม ส่วนท่อน้ำต่าง  ๆ ภายในตัวบ้าน ตัวอาคาร เราไม่จำเป็นต้องทำใหม่ เพราะยังสามารถใช้อันเดิมอันเก่าตัดต่อของเดิมภายในบ้านใช้ได้ทันที เพียงแค่ เราหาจุดที่เชื่อมต่อท่อน้ำทั้งหมดของตัวบ้านตัวอาคารว่า อยู่จุดไหน เราก็ตัดต่อตรงบริเวณนั้น แค่นี้ ก๊อกน้ำส่วนต่าง ๆ ก็สามารถใช้ได้เหมือนเดิม

               การวางระบบน้ำถือเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับต้น ๆ อาชีพช่างประปาจึงเป็นอาชีพที่ต้องมีฝีมือค่อนข้างดี เป็นที่เชื่อใจของเหล่าผู้ใช้บริการ ถ้าเราเหตุการณ์น้ำรั่วแค่จุดเล็ก ๆ เพียงจุดเดียวมันก็สามารถที่จะทำให้เงินในกระเป๋าเราแห้งลงไปได้ไม่น้อยเช่นกัน  แล้วยิ่งจุดที่น้ำรั่วนั้นเรามองไม่เห็น มันอาจจะเป็นผลกระทบต่อมาในอนาคตอันใกล้ได้

                  การวางระบบน้ำก็ควรต้องทำนึกถึงน้ำที่เราต้องทิ้งด้วยเช่นกัน น้ำที่เราจะต้องทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ ถ้าเป็นน้ำที่สามารถนำเอามาใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้บ้างก็ ควรจะเก็บไว้ อย่างเช่นน้ำล้างผัก ก็สามารถนำมารดต้นไม้ได้ น้ำซักผ้าน้ำสุดท้ายก็ใช้รดต้นไม้ได้เช่นกันการช่วยกันประหยัดน้ำ ก็จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของเราด้วย

                  การดูแลระบบน้ำต่าง ๆ ต้องหมั่นตรวจสอบ อุปกรณ์ท่อน้ำ ก๊อกน้ำ   วาล์วน้ำ  อุปกรณ์ซักล้าง ชักโครกสุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ที่มีผลต่อการทำงานของน้ำ ให้มีอายุการใช้งานที่คุ้มค่ามากที่สุด  อุปกรณ์เหล่านี้ยิ่งนานวันก็จะยิ่งผุกร่อนลงไป การใช้งาน ก็จะมีประสิทธิภาพลดลงไปด้วย หมั่นเช็ค ตรวจดู ซ่อมแซมก่อนที่จะเสียหาย เพื่อป้องกันการเสียขึ้นมาในเวลาฉุกเฉิน แค่นี้ เราก็ไม่ต้องพะวงปัญหาเรื่องน้ำ และ ค่าน้ำเกินอีกต่อไป

Post A Comment:

0 comments:

babbaan.in V. Powered by Blogger.