การเจาะผนังบ้าน เพื่อใช้ประโยชน์ต่าง ๆ นั้นมีเหตุผลนานัปการ จะเจาะเผื่อแขวนรูป แขวนนาฬิกา โชว์ของมีค่าต่างๆ  เจาะติดปลักไฟ เจาะเพื่อติดตั้งเครื่องปรับอากาศ และสาเหตุอีกมากมาย  การเจาะผนังนั้น จำเป็นต้องหาเครื่องมือมาช่วยไม่ว่าจะเป็นสว่าน หรือเครื่องทุ่นแรงชนิดอื่น ๆ ถ้าเราเจาะผนังบ้านดี ๆ ก็อาจจะได้ ผนังยังคงสวยงาม ไม่ต้องกังวลกับรอยแผลที่เกิดขึ้น  แต่ถ้าการเจาะพลาดมีรอยแตกร้าวกว้าง อาจจะต้องเสียเงิน หลายร้อยบาทในการซ่อม  บางรอยเจาะอาจเป็นหลักพัน  โปรดคิดว่าแผนเจาะผนังให้ดีก่อนตัดสินใจ  เพราะเจาะฟรีไม่เสียตังค์ แต่พลาดพลังอาจจะเสียเงินซ่อมเอาได้ เมื่อมีการเจาะ ก็ต้องมีการอุด  วิธีการอุดรอยเจาะแบบง่าย ๆ คือการนำเอากาวยาแนว สีที่ใกล้เคียงกับ ตัวบ้านเรามาอุดไว้ โดยวิธีการทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้





                 เตรียมกาวยาแนว หรือ ปูนยาแนว มาผสมน้ำเล็กน้อย เพราะถ้าผสมมากเกินไป จะเหลว ใช้ไม่ได้ ผสมจนรู้สึกคล้ายกับเนื้อดินน้ำมัน เราก็นำมาปิดรอยเจาะต่าง ๆ ยิ่งถ้าเป็นการเจาะด้วยการตอก ต้องบอกว่ารอยเจาะมันอาจจะกว้างกว่าปกติคงผสมเผื่อไว้บ้างค่อย ๆ ปาดตัวกาวยาแนว หรือ ปูนยาแนว ให้พอดีกับขนาดของรอย พยายามอัดเนื้อปูนหรือ กาวลงไปให้แน่น อาจจะเลอะขอบไปบ้างเล็กน้อยไม่ต้องกังวล พอเราทำตามขั้นตอนแรกเสร็จเราควรปล่อยทิ้งไว้สักครู่ ประมาณ 15 นาทีแล้วหลังจากนั้นลองใช้มือสัมผัส ถ้ารู้สึกว่าแข็ง ให้หากระดาษทรายมาขัดให้ผิวด้านหน้านั้น เสมอกัน แล้วใช้สีบ้านทาทับอีกครั้งก็เหมือนใหม่ขึ้นทันที

                   ในกรณีของ รอยเจาะขนาดใหญ่ อย่างเช่น รอยเจาะในการวางท่อเครื่องปรับอากาศ จะมีรอยเจาะทะลุผนัง รอยกว้างและใหญ่ อาจจะเปลืองวัสดุอุด เราก็ประหยัดได้โดยให้เราหากระดาษหนังสือพิมพ์ มาขยำ เป็นก้อนกลม ๆ ขนาดที่สามารถยัดเข้าไปในช่องรอยเจาะได้แบบ แน่น ๆ เหลือส่วนที่จะปิดให้พอดี แล้วจึงทำการผสม ปูนยาแนว หรือ กาวยาแนวปิดทับ จะช่วยประหยัดต้นทุนได้มาก แล้วหลังจากนั้นใช้วิธีการเดียวกับรอยเจาะเล็ก ๆ คือ ปล่อยไว้ให้แห้งสักครู่ แล้วขัดให้ผิวเสมอกัน ตามด้วยทาสีทับเป็นอันเสร็จสมบูรณ์


           สำหรับหลาย ๆ ท่านที่พบเจอรอยเจาะ พร้อมทั้งแก้ปัญหาแล้ว แต่ยังรู้สึกว่ารอยที่เราซ่อม นั้นไม่สวยถูกใจ  การแก้ปัญหาแบบบ้าน ๆ คือการหาภาพวาด  หรือรูปถ่าย มาช่วยบดบังรอยที่เคยมีประวัติศาสตร์ไว้ แล้วถ้าสีบ้านที่เราทาไว้ก่อนเริ่มรู้สึกว่าเก่า เราก็สามารถที่จะติดวอเปเปอร์สวย ๆ  แบบนี้ ก็สามารถบังรอยเจาะที่ไม่สวยได้พร้อมได้ บรรยากาศในบ้านใหม่ด้วย
           
         แต่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกจุดคือการไม่เจาะ อย่างในกรณีที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้เช่นการ แขวนภาพ แขวนนาฬิกา หรือแขวนข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ควรใช้วิธีการ ติดตัวแขวน หรือ เทปกาว 2 หน้ามาช่วยก็น่าจะพอได้ พอเวลาที่เราไม่ใช้ หรือเปลี่ยนมุม เราแค่แกะกาวเหล่านี้ออกก็จะไม่มีร่องรอยต่าง ๆ เหลือทิ้งไว้ให้เศร้าใจ

            ถ้ามีการจำเป็นต้องเจาะผนัง เราจะใช้เครื่องมือในการเจาะ ถ้าต้องเจาะผนังปูน ด้วยยิ่งแล้วยิ่งต้องมีสว่านที่มีแรงในการเจาะที่สูงเพื่อป้องกันไม่ให้ รอยเจาะเกิดการแตกร้าว บริเวณรอบรอยแผลที่จะฝากไว้บนฝาผนัง เป็นรอยใหญ่จนน่าเกลียด  การที่เราใช้ค้อนตอกตะปูคอนกรีตเข้าไปนั้นถ้าเราเจาะไม่ดี ก็จะทำให้ผนังมีแผลเป็นรอยกว้าง พอเรานำของที่จะไปแขวน เราก็จะเห็นรอยเจาะแผลแห่งความช้ำใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ ควรหลีกเลี่ยงการเจาะผนังด้วยการใช้ค้อนตอกโดยตรงการเจาะผนังควรจะต้องเจาะอย่างระมัดระวัง
                 การซ่อมรอยเจาะของผนังก็สามารถที่จะใช้ปูนที่ก่อสร้างบ้านมาซ่อมได้เช่นกัน แต่ไม่เป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากเวลาเรานำปูนก่อสร้างบ้านมาซ่อมรอยเจาะผนังสีของปูนก็ไม่มีความใกล้เคียงกับสีของตัวบ้าน   พอเวลาที่ปูนกำลังจะแข็งตัว การขัดปูนให้กลืนกับผิวเดิมของผนังเป็นเรื่องยาก เนื่องจากปูนมีความแข็งตัวสูง และ ยืดเกาะกับปูนเก่า จึงไม่เป็นที่นิยม
             วิธีการซ่อมรอยเจาะของผนังไม้  สิ่งที่ต้องเตรียมคือ ขี้เลื่อย กาวลาเท็กซ์  เริ่มแรก ก็ผสมขี้เลื่อยกับกาวลาเท็กซ์ ให้เข้ากันโดยผสมที่ละน้อย ค่อยๆ ปั้นให้เป็นลักษณะคล้าย เนื้อดินน้ำมัน อาจจะเหนียวและเหลวกว่าเล็กน้อยได้ พอส่วนผสมเข้ากันดี ก็ นำส่วนผสมนี้ ปิดไปตามรูรอยเจาะ ค่อย ๆ เติมลงไปจนกว่าจะเต็ม ปาดให้เกินกว่ารอยแผลเล็กน้อย เพราะพอเวลากาวแห้งตัวอาจจะหดลงได้  หลังจากนั้นรอให้กาวแห้งตัวประมาณ 1-2 ชั่วโมง แล้วลองมาสัมผัสดูว่า แห้งและแข็งดีแล้ว ก็ใช้กระดาษทรายขัดให้ผิวเรียบเสมอกัน แต่งให้สวย เช็ดทำความสะอาดให้หมด ไม่มีคราบฝุ่นติด ก็สามารถนำเอาสีมาทาทับผนังไม้ได้ เหมือนเดิม
           การดูแลรักษาตัวบ้าน ผนังบ้าน เป็นเรื่องที่ไม่ยาก และไม่ง่ายจนเกินกำลัง เพียงแค่เรา พิจารณาก่อนลงมือทำ เท่านี้การจะเจาะตกแต่งบ้านก็จะสวยงามและ ใช้ประโยชน์จากการเจาะได้ยาวนานตลอดไป

Post A Comment:

0 comments:

babbaan.in V. Powered by Blogger.