โคมไฟ เป็นทางเลือกใหม่ที่นอกจากจะให้แสงสว่างภายในบ้าน และส่วนต่างๆ ของบริเวณบ้านแล้ว ปัจจุบันโคมไฟยังสามารถนำมาตกแต่งบ้านเพื่อความสวยงามเหมาะสมได้อีกด้วย โดยมีโคมไฟหลายแบบให้เลือกมากมาย มีทั้งแบบโมเดิร์น คลาสสิก หรูหรา ไปจนถึงแบบอาร์ตๆ เท่ห์ๆ หรือน่ารักๆ ด้วย ซึ่งการเลือกใช้โคมไฟนั้น ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมตามประโยชน์ใช้สอยของห้องนั้นๆ รูปแบบการตกแต่งห้องนั้นๆ และบุคลิกของผู้ที่เป็นเจ้าของบ้านด้วย โดยในวันนี้ เราจะกล่าวถึงในส่วนของโคมไฟเพดานก่อน ว่าควรเลือกแบบไหน ยังไง ราคาโดยประมาณเป็นเท่าไหร่ และมีข้อดีข้อด้อยยังไง เพื่อให้เพื่อนๆ ได้นำไปประยุกต์ตกแต่งบ้านตามสไตล์ตนเองกัน
ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักกับประเภทของโคมไฟเพดานกันก่อนดีกว่า ว่ามีกี่ประเภท แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน และมีราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
1. โคมไฟฝังฝ้า หรือที่เรารู้จักกันในนามโคมไฟดาวน์ไลท์ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในการเลือกมาใช้สอย เพราะนอกจากจะให้แสงสว่างได้อย่างทั่วถึงแล้ว ยังสามารถใช้ได้กับห้องทุกแบบ และกลมกลืนได้กับสไตล์การแต่งห้องทุกสไตล์โดยไม่ดูแปลกแยกหรือแตกต่าง แต่ว่าโคมไปดาวน์ไลท์ก็มีข้อเสียอยู่ คือถึงแม้จะเข้าได้ดีกับการตกแต่งห้องทุกแบบทุกสไตล์โดยไม่ให้ความรู้สึกแปลกแยก แต่ก็เป็นโคมไฟที่ดูเรียบจนเกินไป ไม่มีมิติ ความโดดเด่นหรือเอกลักษณ์ที่ช่วยดึงดูดสายตาเท่าที่ควร การใช้โคมไฟเพดานชนิดนี้ในการตกแต่งห้อง จึงมักใช้ร่วมกับโคมไฟเพดานประเภทอื่นๆ เพื่อสร้างลูกเล่นให้กับเพดานห้องและเพื่อเพิ่มความสวยงามอีกด้วยส่วนในเรื่องของราคานั้น โคมไฟดาวน์ไลท์มีราคาตั้งแต่ประมาณ 600 บาท ไปจนถึงราคาเป็นพัน และการติดตั้งโคมไฟเพดานประเภทนี้นั้น ค่อนข้างยุ่งยากและมีช่างที่ทำได้ยังไม่กว้างขวาง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งค่อนข้างแพง โดยราคาติดตั้งถูกสุดแบบไม่รวมอุปกรณ์นั้นอยู่ที่ 250 บาทต่อจุด หากเป็นโครงการในบ้านจัดสรรจึงมักคิดค่าติดตั้งแบบเหมาทั้งหลัง ซึ่งแม้ราคาอาจสูงกว่าเล็กน้อย แต่สะดวกและไม่วุ่นวายด้วย
2. โคมไปแบบติดลอย โคมไฟเพดานชนิดนี้เป็นโคมไฟที่มีน้ำหนักเบามาก จึงสามารถยึดติดกับฝ้าได้แบบไม่ต้องเจาะฝ้าเลยทีเดียว โคมไฟแบบนี้มีหลายแบบหลายรูปทรง สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม นอกจากนั้นยังมีหลอดไฟหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบที่ต้องการแสงสว่างมากหรือใช้เป็นแสงหลัก เช่น ในห้องนอน ห้องรับแขก และอาจจะใช้เพื่อให้แสงเฉพาะจุดเพื่อความสวยงาม เช่น แสงบนโต๊ะอาหาร ก็ได้แล้วแต่ชนิดของโคมไป ราคาโคมไปก็มีหลายราคาให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาด ดีไซน์ของโคมไฟที่เลือกอีกเช่นกัน
3. โคมไฟเพดานทั่วไปที่มักเรียกกันว่าโคมซาลาเปา หรือโคม 32W. เป็นโคมไฟอีกประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยราคาที่ไม่แพง ติดตั้งสะดวกและง่าย แต่โคมไฟแบบนี้ แม้จะมีรูปแบบลวดลายหลายแบบ ตาด้วยรูปทรงและลักษณะนั้นให้ความรู้สึกที่คล้ายกัน จึงไม่ได้มีความสวยงามโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์นัก กลับให้ความรู้สึกแบบมาตรฐานคือสวยงาม สุภาพ นอกจากนั้นแสงที่ได้มักจะเป็นแสงนวลๆ ที่ไม่สว่างมาก นุ่มนวล ไม่แยงตา จึงเหมาะมากกับห้องนั่งเล่นหรือห้องที่ใช้พักผ่อนอย่างห้องนอน แต่ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับห้องที่ต้องใช้สายตามากๆ อย่างห้องทำงาน
4. โคมไปแขวนหรือโคมไฟห้อย ซึ่งมีหลายแบบให้เลือก ทั้งสไตล์โมเดิร์น รูปทรงเท่ห์ๆ เรขาคณิต หรือแม้แต่โคมไฟแขวนระย้าที่หรูหราสวยงาม โคมไฟแบบนี้เหมาะสำหรับเลือกใช้เพื่อให้แสงไฟเฉพาะจุด และเพื่อความสวยงามเป็นหลัก ปัจจุบันจึงพบว่า มีการเลือกใช้โคมไฟแบบนี้อยู่แทบทุกห้องในบ้านเพราะให้ความสวยงามสะดุดตา และมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกกว่าชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว โดยเฉพาะในส่วนทางเดินเข้าบ้านหรือจุดหลักๆ ที่เป็นส่วนที่สวยงามของบ้าน แต่การจะเลือกใช้โคมไฟชนิดนี้นั้นต้องเลือกให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยด้วย โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงต่อไปนี้
- เลือกการติดตั้งที่ปลอดภัย โดยหากเป็นโคมไฟห้อยเดี่ยวมีมีขนาดเล็กๆ มีน้ำหนักไม่มากสามารถยึดติดกับฝ้าเพดานได้เลย แต่ถ้าหากเป็นโคมไฟระย้า หรูหรา มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และควรออกแบบโครงเหล็กยึดกับโครงสร้างหลัก เช่น พื้นหรือคานด้านบนเพื่อความปลอดภัย
- เลือกขนาดของโคมไฟให้เหมาะกับขนาดของห้อง โดยอาจใช้วิธีวัดจากความกว้างของห้องเป็นฟุต จากนั้นให้คูณสองจะเป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของโคมที่มีหน่วยเป็นนิ้ว เช่น ห้องมีความกว้าง 10 ฟุต โคมสำหรับห้องนี้ควรมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 นิ้ว เป็นต้น
- โคมไฟควรอยู่สูงจากพื้นประมาณ 6.5 ฟุต หรือ 1.95 เมตร แต่ไม่ควรสูงเกิน 7 ฟุต และหากติดบริเวณโต๊ะอาหารควรมีความสูงจากระดับโต๊ะมากกว่า 30-34 นิ้ว เพื่อไม่ให้ศีรษะชน อีกทั้งเป็นระยะที่ทำให้เราสามารถตกแต่งโต๊ะอาหารด้วยเชิงเทียนสวยๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะชนกับตัวโคมอีกด้วย
5. โคมไฟเพดานแบบสปอตไลท์ ซึ่งใช้กับบ้านสไตล์โมเดิร์น เพราะให้ภาพลักษณ์ของความทันสมัย และยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานได้หลายรูปแบบ สามารถใช้ให้แสงสว่างทั่วไป หรือเน้นแสงเฉพาะพื้นที่ก็ได้
เป็นอย่างไรบ้างกับความรู้เกี่ยวกับโคมไฟเพดานที่เรานำมาฝากในวันนี้ ได้โคมไปเพดานในใจกันบ้างหรือยังเอ่ย ที่สำคัญที่สุดอย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่า อย่าลืมเลือกโคมไฟเพดานที่เหมาะกับประโยชน์ใช้สอย เลือกให้กลมกลืนกับสไตล์การแต่งบ้านและสไตล์ความเป็นคุณด้วย
ก่อนอื่นเลย เรามาทำความรู้จักกับประเภทของโคมไฟเพดานกันก่อนดีกว่า ว่ามีกี่ประเภท แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน และมีราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่
1. โคมไฟฝังฝ้า หรือที่เรารู้จักกันในนามโคมไฟดาวน์ไลท์ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในการเลือกมาใช้สอย เพราะนอกจากจะให้แสงสว่างได้อย่างทั่วถึงแล้ว ยังสามารถใช้ได้กับห้องทุกแบบ และกลมกลืนได้กับสไตล์การแต่งห้องทุกสไตล์โดยไม่ดูแปลกแยกหรือแตกต่าง แต่ว่าโคมไปดาวน์ไลท์ก็มีข้อเสียอยู่ คือถึงแม้จะเข้าได้ดีกับการตกแต่งห้องทุกแบบทุกสไตล์โดยไม่ให้ความรู้สึกแปลกแยก แต่ก็เป็นโคมไฟที่ดูเรียบจนเกินไป ไม่มีมิติ ความโดดเด่นหรือเอกลักษณ์ที่ช่วยดึงดูดสายตาเท่าที่ควร การใช้โคมไฟเพดานชนิดนี้ในการตกแต่งห้อง จึงมักใช้ร่วมกับโคมไฟเพดานประเภทอื่นๆ เพื่อสร้างลูกเล่นให้กับเพดานห้องและเพื่อเพิ่มความสวยงามอีกด้วยส่วนในเรื่องของราคานั้น โคมไฟดาวน์ไลท์มีราคาตั้งแต่ประมาณ 600 บาท ไปจนถึงราคาเป็นพัน และการติดตั้งโคมไฟเพดานประเภทนี้นั้น ค่อนข้างยุ่งยากและมีช่างที่ทำได้ยังไม่กว้างขวาง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งค่อนข้างแพง โดยราคาติดตั้งถูกสุดแบบไม่รวมอุปกรณ์นั้นอยู่ที่ 250 บาทต่อจุด หากเป็นโครงการในบ้านจัดสรรจึงมักคิดค่าติดตั้งแบบเหมาทั้งหลัง ซึ่งแม้ราคาอาจสูงกว่าเล็กน้อย แต่สะดวกและไม่วุ่นวายด้วย
2. โคมไปแบบติดลอย โคมไฟเพดานชนิดนี้เป็นโคมไฟที่มีน้ำหนักเบามาก จึงสามารถยึดติดกับฝ้าได้แบบไม่ต้องเจาะฝ้าเลยทีเดียว โคมไฟแบบนี้มีหลายแบบหลายรูปทรง สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม นอกจากนั้นยังมีหลอดไฟหลายแบบให้เลือก ทั้งแบบที่ต้องการแสงสว่างมากหรือใช้เป็นแสงหลัก เช่น ในห้องนอน ห้องรับแขก และอาจจะใช้เพื่อให้แสงเฉพาะจุดเพื่อความสวยงาม เช่น แสงบนโต๊ะอาหาร ก็ได้แล้วแต่ชนิดของโคมไป ราคาโคมไปก็มีหลายราคาให้เลือกตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาด ดีไซน์ของโคมไฟที่เลือกอีกเช่นกัน
3. โคมไฟเพดานทั่วไปที่มักเรียกกันว่าโคมซาลาเปา หรือโคม 32W. เป็นโคมไฟอีกประเภทที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ด้วยราคาที่ไม่แพง ติดตั้งสะดวกและง่าย แต่โคมไฟแบบนี้ แม้จะมีรูปแบบลวดลายหลายแบบ ตาด้วยรูปทรงและลักษณะนั้นให้ความรู้สึกที่คล้ายกัน จึงไม่ได้มีความสวยงามโดดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์นัก กลับให้ความรู้สึกแบบมาตรฐานคือสวยงาม สุภาพ นอกจากนั้นแสงที่ได้มักจะเป็นแสงนวลๆ ที่ไม่สว่างมาก นุ่มนวล ไม่แยงตา จึงเหมาะมากกับห้องนั่งเล่นหรือห้องที่ใช้พักผ่อนอย่างห้องนอน แต่ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับห้องที่ต้องใช้สายตามากๆ อย่างห้องทำงาน
4. โคมไปแขวนหรือโคมไฟห้อย ซึ่งมีหลายแบบให้เลือก ทั้งสไตล์โมเดิร์น รูปทรงเท่ห์ๆ เรขาคณิต หรือแม้แต่โคมไฟแขวนระย้าที่หรูหราสวยงาม โคมไฟแบบนี้เหมาะสำหรับเลือกใช้เพื่อให้แสงไฟเฉพาะจุด และเพื่อความสวยงามเป็นหลัก ปัจจุบันจึงพบว่า มีการเลือกใช้โคมไฟแบบนี้อยู่แทบทุกห้องในบ้านเพราะให้ความสวยงามสะดุดตา และมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกกว่าชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องรับแขก ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว โดยเฉพาะในส่วนทางเดินเข้าบ้านหรือจุดหลักๆ ที่เป็นส่วนที่สวยงามของบ้าน แต่การจะเลือกใช้โคมไฟชนิดนี้นั้นต้องเลือกให้เหมาะสมเพื่อความปลอดภัยด้วย โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึงถึงต่อไปนี้
- เลือกการติดตั้งที่ปลอดภัย โดยหากเป็นโคมไฟห้อยเดี่ยวมีมีขนาดเล็กๆ มีน้ำหนักไม่มากสามารถยึดติดกับฝ้าเพดานได้เลย แต่ถ้าหากเป็นโคมไฟระย้า หรูหรา มีขนาดใหญ่และมีน้ำหนักมากควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ และควรออกแบบโครงเหล็กยึดกับโครงสร้างหลัก เช่น พื้นหรือคานด้านบนเพื่อความปลอดภัย
- เลือกขนาดของโคมไฟให้เหมาะกับขนาดของห้อง โดยอาจใช้วิธีวัดจากความกว้างของห้องเป็นฟุต จากนั้นให้คูณสองจะเป็นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของโคมที่มีหน่วยเป็นนิ้ว เช่น ห้องมีความกว้าง 10 ฟุต โคมสำหรับห้องนี้ควรมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 20 นิ้ว เป็นต้น
- โคมไฟควรอยู่สูงจากพื้นประมาณ 6.5 ฟุต หรือ 1.95 เมตร แต่ไม่ควรสูงเกิน 7 ฟุต และหากติดบริเวณโต๊ะอาหารควรมีความสูงจากระดับโต๊ะมากกว่า 30-34 นิ้ว เพื่อไม่ให้ศีรษะชน อีกทั้งเป็นระยะที่ทำให้เราสามารถตกแต่งโต๊ะอาหารด้วยเชิงเทียนสวยๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะชนกับตัวโคมอีกด้วย
5. โคมไฟเพดานแบบสปอตไลท์ ซึ่งใช้กับบ้านสไตล์โมเดิร์น เพราะให้ภาพลักษณ์ของความทันสมัย และยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานได้หลายรูปแบบ สามารถใช้ให้แสงสว่างทั่วไป หรือเน้นแสงเฉพาะพื้นที่ก็ได้
เป็นอย่างไรบ้างกับความรู้เกี่ยวกับโคมไฟเพดานที่เรานำมาฝากในวันนี้ ได้โคมไปเพดานในใจกันบ้างหรือยังเอ่ย ที่สำคัญที่สุดอย่างที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่า อย่าลืมเลือกโคมไฟเพดานที่เหมาะกับประโยชน์ใช้สอย เลือกให้กลมกลืนกับสไตล์การแต่งบ้านและสไตล์ความเป็นคุณด้วย
Post A Comment:
0 comments: