ตู้เสื้อผ้าเป็นสิ่งที่ทุกบ้านจะต้องมีไว้เพื่อใช้สอยในการจัดเก็บเสื้อผ้าของคุณให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยบางบ้านนั้นก็จะมีการจัดเก็บตู้เสื้อผ้าไว้ในห้องนอน แต่บางบ้านก็จะสร้างห้องเก็บเสื้อผ้าโดยเฉพาะเอาไว้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าของบ้านแล้วล่ะว่าจะนำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นนี้เข้ามาจัดแต่งในบ้านได้อย่างไร
วัสดุที่ใช้ทำ
ส่วนมากมักจะมาจากไม้ เพราะว่าเมื่อไหร่ที่คุณจะต้องซื้อตู้เสื้อผ้าแบบนี้ แล้วเคลื่อนย้ายเข้าบ้านนั้นจะสะดวกต่อการขนย้ายมากกว่า แล้วหลังจากที่คุณไปถึงบ้านแล้วก็สามารถบอกช่างหรือว่าจะประกอบเองก็ก็ได้ โดยการตกแต่งจะใช้สีสัน และกระจกเข้ามาประกอบเพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการใช้งานให้มากขึ้น
ข้อดี
-คุณสามารถเคลื่อนย้ายมันได้ตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่อยากจะย้ายให้มันไปอยู่ห้องนอนห้องอื่นก็จะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณ ถ้าไม่อยากได้มันอีกต่อไป หรือว่าต้องการอยากจะขายต่อคุณก็สามารถโยกย้ายขายมันออกไปให้ไปอยู่กับเจ้าของบ้านอื่นได้
- ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเสื้อผ้าเยอะ หรือไม่ค่อยชอบการช็อปปิ้งเสื้อผ้าก็จะเป็นเรื่องดีสำหรับการเลือกแบบตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปเพราะว่ามันไม่สามารถเพิ่มขนาดได้ตามที่คุณต้องการ และมันเหมาะกับคนที่ชอบเลือกในสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพราะคุณไม่ต้องไปหาวัสดุอุปกรณ์มาทำตู้เสื้อผ้าเอง
ข้อเสีย
-อย่างแรกเลยก็คือบางครั้งที่คุณเดินเข้าไปในร้าน และเลือกดูแบบนั้นอาจจะต้องตัดสินใจซื้อชิ้นใดชิ้นหนึ่งมาไว้ที่บ้าน บางทีคุณอาจจะอยากได้ประตูของแบบตู้เสื้อผ้าชิ้นแรก แต่สีสันของมันกลับไม่ถูกใจ เพราะฉะนั้นก็จะต้องเลือกแล้วล่ะว่าจะเอาชิ้นไหนเข้ามาไว้ที่บ้าน
- พื้นที่ใช้สอยของตู้เสื้อผ้าแบบนี้มีอยู่จำกัด เมื่อไหร่ที่เสื้อผ้าในตู้เริ่มเยอะขึ้น หรือว่าคุณเป็นคนที่มีเสื้อผ้าเยอะอยู่แล้วอาจจะทำให้คุณต้องซื้อตู้เข้ามาเพิ่มถ้าจะต้องทำความสะอาดคุณก็จะต้องต่อเก้าอี้ให้สูงๆ เพื่อขึ้นไปทำความสะอาดเพดานของตู้เสื้อผ้าอีกด้วย
2. ตู้เสื้อผ้าแบบBuilt-in มันก็คือการที่คุณสร้างตู้เสื้อผ้าเองโดยใช้พื้นที่ภายในบ้านที่คุณต้องการเอาเสื้อผ้ามาวางไว้ทำเป็นตู้ขึ้นมา อาจจะเป็นการสร้างฉากไม้ขึ้นมาหรือว่าจะเป็นการก่อปูนขึ้นในการสร้างฐาน และเพิ่มการตกแต่งเข้าไปเพื่อให้ความสวยงาม โดยประตูก็สามารถเป็นได้ทั้งบานพับ ล้อเลื่อน บางก็ก็ใช้แบบบานเฟี้ยม แต่ว่าการใช้แบบตู้เสื้อผ้า Built-in นั้นจะนิยมใช้ประตูแบบล้อเลื่อน อีกทั้งเป็นที่นิยมใช้ในคอนโดมิเนียม และบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย
วัสดุที่ใช้ทำตู้เสื้อผ้า
ในการใช้แบบ Built-in นี้ คุณสามารถเลือกใช้วัสดุหลากหลายอย่างเพื่อทำตู้เสื้อผ้าเองได้ ถ้าคุณต้องการความสะดวกและความแข็งแรงทนทานนั่นก็คือการใช้กระจก หรือว่าบานประตูแบบกระจกเข้ามาทำเป็นฉาก และประตูเปิดปิดตู้เสื้อผ้า โดยจะเป็นกระจกใสหรือสองด้านที่ด้านหนึ่งใส และอีกด้านนึงเป็นแบบขุ่นเพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นเห็นความไม่เป็นระเบียบในตู้เสื้อผ้าได้ ต่อมาก็จะเป็นการใช้ไม้ที่คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านก่อสร้าง แล้วนำมาให้ช่างประกอบเป็นรูปแบบต่างๆ ที่คุณต้องการ
ข้อดี
-เมื่อไหร่ที่คุณมีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านน้อย การใช้แบบตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะว่าสามารถกำหนดพื้นที่เองได้ ไม่ว่าจะเป็นความกว้างยาวสูง และยังสามารถกำหนดฟังก์ชั่นการใช้งานได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเอาลิ้นชักไว้ด้านในซักกี่ชิ้นก็ทำได้ แต่ถ้าหากว่าซื้อมาจากร้านแล้วล่ะก็คุณจะหาไม่ได้เลย
- คุณสามารถจัดทำได้ตามงบที่คุณมีอยู่ในกระเป๋า เพราะบางครั้งที่ไปเดินดูตู้เสื้อผ้าแต่ละแบบในร้านคุณจะเห็นว่าราคาของมันไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียว ถ้าหากว่าคุณมีวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างมาก่อนอยู่แล้วก็เอามันมาใช้งานได้ และทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไปอีกเยอะ
ข้อเสีย
-ถ้าหากว่าคุณเบื่อแบบตู้เสื้อผ้านี้แล้วคุณจะเอามันออกไปจากบ้านได้ยาก เพราะว่าการก่อสร้างแบบก่อปูนจะเป็นการยึดติดแบบถาวร แต่ถ้าถ้าหากว่าเป็นการสร้างฉากไม้ขึ้นมาประกอบก็พอจะหาวิธีเอามันออกไปได้ง่ายอยู่บ้างดังนั้นก่อนการก่อสร้างนั้นคุณควรจะคิดให้ดีก่อนที่จะเรียกช่างมาที่บ้าน
- บางครั้งวัสดุที่คุณอยากจะเอามาทำเป็นตู้เสื้อผ้านั้นก็มีราคาแพงเหลือเกิน เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะต้องเตรียมเงินสำรองไว้ซักหน่อย เพราะเมื่อไปถึงร้านขายวัสดุแล้วอาจจะต้องรับมือกับราคาที่คลาดเคลื่อนได้ และไหนจะค่าฝีมือช่าง ค่าอุปกรณ์อื่นๆ อีกด้วย
รูปแบบของตู้เสื้อผ้า
1. แบบตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูป ที่คุณจะต้องซื้อมาจากร้านหรือว่าห้างสรรพสินค้าโดยเฉพาะ ซึ่งมีแบบให้คุณได้เลือกมากมาย แต่อาจจะยังไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ 100% เพราะบางทีแบบที่มีอยู่ในร้านก็มีบ้างส่วนประกอบที่คุณไม่อยากได้มัน แต่ถ้าหากว่าคุณมีวัสดุที่ใช้ทำตู้เสื้อผ้าได้ตู้เสื้อผ้าแบบเคลื่อนย้ายได้ก็ไม่ใช่ปัญหาของคุณอีกต่อไป ส่วนประตูของตู้เสื้อผ้านั้นก็จะมีทั้งแบบบานพับที่เวลาเปิดปิดนั้นจะเหมือนประตูทั่วๆ ไป และลักษณะแบบล้อเลื่อนที่ไม่ต้องเปิดออกปิดเข้า ที่สำคัญคือกินเนื้อที่ใช้สอยน้อยกว่าแบบบานพับนั่นเองวัสดุที่ใช้ทำ
ส่วนมากมักจะมาจากไม้ เพราะว่าเมื่อไหร่ที่คุณจะต้องซื้อตู้เสื้อผ้าแบบนี้ แล้วเคลื่อนย้ายเข้าบ้านนั้นจะสะดวกต่อการขนย้ายมากกว่า แล้วหลังจากที่คุณไปถึงบ้านแล้วก็สามารถบอกช่างหรือว่าจะประกอบเองก็ก็ได้ โดยการตกแต่งจะใช้สีสัน และกระจกเข้ามาประกอบเพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการใช้งานให้มากขึ้น
ข้อดี
-คุณสามารถเคลื่อนย้ายมันได้ตลอดเวลา เมื่อไหร่ที่อยากจะย้ายให้มันไปอยู่ห้องนอนห้องอื่นก็จะไม่เป็นปัญหาสำหรับคุณ ถ้าไม่อยากได้มันอีกต่อไป หรือว่าต้องการอยากจะขายต่อคุณก็สามารถโยกย้ายขายมันออกไปให้ไปอยู่กับเจ้าของบ้านอื่นได้
- ถ้าหากคุณเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเสื้อผ้าเยอะ หรือไม่ค่อยชอบการช็อปปิ้งเสื้อผ้าก็จะเป็นเรื่องดีสำหรับการเลือกแบบตู้เสื้อผ้าสำเร็จรูปเพราะว่ามันไม่สามารถเพิ่มขนาดได้ตามที่คุณต้องการ และมันเหมาะกับคนที่ชอบเลือกในสิ่งที่มีอยู่แล้ว เพราะคุณไม่ต้องไปหาวัสดุอุปกรณ์มาทำตู้เสื้อผ้าเอง
ข้อเสีย
-อย่างแรกเลยก็คือบางครั้งที่คุณเดินเข้าไปในร้าน และเลือกดูแบบนั้นอาจจะต้องตัดสินใจซื้อชิ้นใดชิ้นหนึ่งมาไว้ที่บ้าน บางทีคุณอาจจะอยากได้ประตูของแบบตู้เสื้อผ้าชิ้นแรก แต่สีสันของมันกลับไม่ถูกใจ เพราะฉะนั้นก็จะต้องเลือกแล้วล่ะว่าจะเอาชิ้นไหนเข้ามาไว้ที่บ้าน
- พื้นที่ใช้สอยของตู้เสื้อผ้าแบบนี้มีอยู่จำกัด เมื่อไหร่ที่เสื้อผ้าในตู้เริ่มเยอะขึ้น หรือว่าคุณเป็นคนที่มีเสื้อผ้าเยอะอยู่แล้วอาจจะทำให้คุณต้องซื้อตู้เข้ามาเพิ่มถ้าจะต้องทำความสะอาดคุณก็จะต้องต่อเก้าอี้ให้สูงๆ เพื่อขึ้นไปทำความสะอาดเพดานของตู้เสื้อผ้าอีกด้วย
2. ตู้เสื้อผ้าแบบBuilt-in มันก็คือการที่คุณสร้างตู้เสื้อผ้าเองโดยใช้พื้นที่ภายในบ้านที่คุณต้องการเอาเสื้อผ้ามาวางไว้ทำเป็นตู้ขึ้นมา อาจจะเป็นการสร้างฉากไม้ขึ้นมาหรือว่าจะเป็นการก่อปูนขึ้นในการสร้างฐาน และเพิ่มการตกแต่งเข้าไปเพื่อให้ความสวยงาม โดยประตูก็สามารถเป็นได้ทั้งบานพับ ล้อเลื่อน บางก็ก็ใช้แบบบานเฟี้ยม แต่ว่าการใช้แบบตู้เสื้อผ้า Built-in นั้นจะนิยมใช้ประตูแบบล้อเลื่อน อีกทั้งเป็นที่นิยมใช้ในคอนโดมิเนียม และบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย
วัสดุที่ใช้ทำตู้เสื้อผ้า
ในการใช้แบบ Built-in นี้ คุณสามารถเลือกใช้วัสดุหลากหลายอย่างเพื่อทำตู้เสื้อผ้าเองได้ ถ้าคุณต้องการความสะดวกและความแข็งแรงทนทานนั่นก็คือการใช้กระจก หรือว่าบานประตูแบบกระจกเข้ามาทำเป็นฉาก และประตูเปิดปิดตู้เสื้อผ้า โดยจะเป็นกระจกใสหรือสองด้านที่ด้านหนึ่งใส และอีกด้านนึงเป็นแบบขุ่นเพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นเห็นความไม่เป็นระเบียบในตู้เสื้อผ้าได้ ต่อมาก็จะเป็นการใช้ไม้ที่คุณสามารถหาซื้อได้ตามร้านก่อสร้าง แล้วนำมาให้ช่างประกอบเป็นรูปแบบต่างๆ ที่คุณต้องการ
ข้อดี
-เมื่อไหร่ที่คุณมีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านน้อย การใช้แบบตู้เสื้อผ้า Built-in เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ เพราะว่าสามารถกำหนดพื้นที่เองได้ ไม่ว่าจะเป็นความกว้างยาวสูง และยังสามารถกำหนดฟังก์ชั่นการใช้งานได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเอาลิ้นชักไว้ด้านในซักกี่ชิ้นก็ทำได้ แต่ถ้าหากว่าซื้อมาจากร้านแล้วล่ะก็คุณจะหาไม่ได้เลย
- คุณสามารถจัดทำได้ตามงบที่คุณมีอยู่ในกระเป๋า เพราะบางครั้งที่ไปเดินดูตู้เสื้อผ้าแต่ละแบบในร้านคุณจะเห็นว่าราคาของมันไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียว ถ้าหากว่าคุณมีวัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างมาก่อนอยู่แล้วก็เอามันมาใช้งานได้ และทำให้คุณประหยัดเงินในกระเป๋าได้ไปอีกเยอะ
ข้อเสีย
-ถ้าหากว่าคุณเบื่อแบบตู้เสื้อผ้านี้แล้วคุณจะเอามันออกไปจากบ้านได้ยาก เพราะว่าการก่อสร้างแบบก่อปูนจะเป็นการยึดติดแบบถาวร แต่ถ้าถ้าหากว่าเป็นการสร้างฉากไม้ขึ้นมาประกอบก็พอจะหาวิธีเอามันออกไปได้ง่ายอยู่บ้างดังนั้นก่อนการก่อสร้างนั้นคุณควรจะคิดให้ดีก่อนที่จะเรียกช่างมาที่บ้าน
- บางครั้งวัสดุที่คุณอยากจะเอามาทำเป็นตู้เสื้อผ้านั้นก็มีราคาแพงเหลือเกิน เพราะฉะนั้นแล้วคุณจะต้องเตรียมเงินสำรองไว้ซักหน่อย เพราะเมื่อไปถึงร้านขายวัสดุแล้วอาจจะต้องรับมือกับราคาที่คลาดเคลื่อนได้ และไหนจะค่าฝีมือช่าง ค่าอุปกรณ์อื่นๆ อีกด้วย
แบบตู้เสื้อผ้าบิวท์ อิน
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
แบบตู้เสื้อผ้า |
Post A Comment:
0 comments: