เมื่อพูดถึงวัสดุปูพื้นบ้านหรือปูพื้นหลายคนก็คงจะนึกถึงพื้นลามิเนตใช่ไหมเอ่ย เพราะผลิตขึ้นอย่างมีคุณภาพ จึงมีลายไม้ที่สวยงามเป็นธรรมชาติ แถมใช้งานได้อย่างคงทนและกำลังเป็นที่นิยมสุดๆ อีกด้วย ซึ่งก็จะทำให้บ้านและทางเดินในสวนของคุณดูสวยอย่างมีระดับ ทั้งยังให้บรรยากาศที่น่าอยู่ จนใครๆ ก็ต้องหลงใหล ว่าแต่พื้นลามิเนตคืออะไร และมีข้อดีข้อเสียอย่างไร เหมาะกับการนำมาปูพื้นบ้านหรือปูทางเดินในสวนมากแค่ไหน มาดูกันเลย
พื้นลามิเนต
พื้นลามิเนต

พื้นลามิเนต คือ….
พื้นลามิเนต เป็นพื้นที่มีลักษณะและลวดลายเหมือนไม้จริงมากๆ ซึ่งผลิตด้วยกระบวนการแรงบีบอัดความแรงสูง ร่วมกับการใช้ความร้อนเพื่อให้แผ่นวัสดุติดกันเป็นชั้นๆ แบบแนบแน่น  และมีความคงทน แข็งแรง สามารถใช้งานได้อย่างคุ้มค่า โดยลามิเนตจะมีส่วนประกอบทั้งหมด 5 ชั้น ดังนี้
ส่วนประกอบของพื้นลามิเนต
ส่วนประกอบของพื้นลามิเนต

1. Overlay
สำหรับชั้นแรกหรือชั้นบนสุดเลย จะเป็น ผิวหน้าไม้ ซึ่งถูกเคลือบด้วยสารประกอบเรซิ่น เพื่อให้ผิวหน้าไม้มีความหนา แข็งแรงและทนทานต่อรอยขีดข่วน ทั้งนี้ก็เพราะชั้นบนสุด เป็นชั้นที่จะต้องรับมือกับการใช้งานมากที่สุด ความแข็งแรงทนทาน จึงมารวมอยู่ที่ชั้นแรกของไม้ลามิเนตนั่นเอง

2. Decorative Layer Paper
สำหรับชั้นที่สอง จะเป็นชั้นตกแต่ง โดยเน้นลวดลายที่เหมือนลายไม้จริงอย่างกับแกะกันมา และใช้สีสันที่ทำให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด หรืออาจเรียกได้ว่าความสวยงามจะรวมกันอยู่ที่ชั้นนี้

3. Core layer-Fiberboard
สำหรับชั้นที่สาม จะเป็นแกนกลางของแผ่นไม้ลามิเนต ซึ่งมีการบดผสมกับกาวเรซิ่น เพื่อให้ยึดติดได้อย่างคงทนและแข็งแรง โดยชั้นนี้จะมีความหนาแน่นสูง เพื่อให้สามารถรองรับน้ำหนักจากการใช้งานได้ดี และมีความแข็งมาก ทั้งยังทนทานต่อความชื้น จึงทำให้ไม้ลามิเนตมีความแข็งทน ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุด

4. Click Lock System & Paraffin Wax
สำหรับชั้นที่สี่ จะเป็นส่วนลางลิ้นระบบคลิ๊กล๊อค ซึ่งมีการเคลือบสารพาราฟินแว็กซ์ ให้แผ่นไม้ติดกันแบบเรียบสนิทมากขึ้น ทั้งยังช่วยป้องกันความชื้นซึมเข้าถึงแกนไม้ภายใน ที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับไม้ลามิเนตได้อีกด้วย

5. Balancing Stability Layer
และสำหรับชั้นสุดท้าย ก็คือแผ่นปิดผิวเพื่อป้องกันความชื้นนั่นเอง ซึ่งชั้นนี้จะมีความเสถียรและมีความคงตัวเป็นอย่างมาก มีความเรียบเสมอ เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้งและคุ้มค่ากับการใช้งาน


คุณสมบัติเด่นๆ ของพื้นลามิเนต


เมื่อพูดถึงคุณสมบัติเด่นๆ ของพื้นลามิเนต ก็ไม่เป็นรองใครเช่นกัน จึงทำให้คนส่วนใหญ่นิยมปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตกันมากขึ้น ซึ่งก็มีคุณสมบัติ ดังนี้

ไร้รอยต่อ ดูเหมือนไม้แผ่นเดียว

ด้วยการผลิตแบบคลิกล็อค จึงทำให้ไม้ลามิเนตดูเรียบเนียนไร้รอยต่อ เนื่องจากแผ่นไม้ถูกบีบอัดจนแน่น ดูกลมกลืนเหมือนเป็นแผ่นเดียวกัน จึงสามารถนำมาปูพื้นได้อย่างสวยงามไร้ที่ติ หากดูเผินๆ ก็คงแทบจะแยกไม่ออกเลยล่ะ ว่าเป็นไม้จริงหรือไม้ที่สังเคราะห์ขึ้นมากันแน่

น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย
ไม้ลามิเนต มีน้ำหนักที่เบามาก จึงสามารถเคลื่อนย้ายและทำการติดตั้งได้ง่าย ไม่ว่าจะปูพื้นบ้านหรือพื้นทางเดินในสวน ก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายกันเลย

ทนทานต่อรอยขีดข่วน
เมื่อปูพื้นด้วยพื้นไม้ หลายคนก็มักจะกังวลว่าอาจเกิดรอยขีดข่วนที่ทำให้พื้นดูมีตำหนิได้ง่าย แต่สำหรับพื้นลามิเนตนั้น บอกเลยว่าหมดกังวลถึงปัญหาเหล่านั้นไปได้เลย เพราะผิวหน้าของไม้ลามิเนตถูกเคลือบด้วยสารประกอบเรซิ่นที่มีความหนาและแข็งมาก จึงทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีและแข็งแรงสามารถทนต่อแรงกดทับได้อีกด้วย

ปลอดภัยจากไฟฟ้าสถิต

เพราะพื้นไม้ลามิเนตไม่เกิดไฟฟ้าสถิต จึงไม่ต้องกลัวว่าจะเกิดปัญหาไฟช๊อตไฟดูด นอกจากว่ามีน้ำหกบนพื้นและมีสายไฟที่ชำรุดวางอยู่บนพื้นพอดี นอกจากนี้ก็ยังทนทานต่อสารเคมี ความร้อนจากแสงแดด และไม่ติดไฟได้ง่ายอีกด้วย

ทำความสะอาดง่าย
พื้นไม้ลามิเนต เป็นพื้นที่ไม่เก็บฝุ่น จึงทำความสะอาดเช็ดถูให้สะอาดหมดจดได้ง่าย แถวผิวหน้าไม่ลื่น เหมาะกับบ้านที่มีเด็กและผู้สูงอายุที่สุด ที่สำคัญคือไม่เกิดเชื้อราและไม่สะสมเชื้อโรคด้วย


จุดด้อย ของพื้นไม้ลามิเนต
นอกจากคุณสมบัติเด่นๆ แล้ว พื้นลามิเนตก็มีจุดด้อยเช่นกัน อย่างที่เรารู้กันดีกว่าไม่มีอะไรดีไปซะทุกอย่างและไม่มีอะไรแย่ไปซะทุกอย่างนั่นเอง ซึ่งก็มีจุดด้อย ดังนี้


ไม่สามารถทำสีใหม่ได้
ไม้ลามิเนต ถูกผลิตให้มีความทนทานและแข็งแรงสูง ทั้งยังประกอบติดกันอย่างเหนียวแน่นจนดูเหมือนเป็นแผ่นเดียวกัน ทำให้ไม่สามารถที่จะขัดผิวหน้าออกเพื่อทำสีใหม่ได้ ซึ่งหากคุณต้องการเปลี่ยนสีพื้นใหม่ ก็ต้องลงทุนซื้อไม้ลามิเนตสีอื่นมาปูทับหรือรื้อถอนพื้นเก่าออกแล้วปูใหม่นั่นเอง ซึ่งก็ทำให้ต้องใช้เวลาและเสียค่าใช้จ่ายมากขึ้น

พื้นเก่าก่อนติดตั้ง ต้องมีความเรียบเสมอ
การติดตั้งพื้นไม้ลามิเนต จะต้องติดตั้งบนพื้นเก่าที่มีความเรียบเสมอหรือได้ระดับ เพราะหากพื้นเก่ามีจุดที่นูนขึ้นมาหรือเป็นแอ่งกะทะ จะทำให้ไม้ลามิเนตที่ติดตั้งลงไปเกิดการเสียสมดุล และทำให้เกิดเสียงดังเวลาเดินได้

ไม่เหมาะกับการติดตั้งนอกอาคาร
ไม้ลามิเนต ถึงแม้จะเป็นไม้ที่สังเคราะห์ตกแต่งขึ้นให้มีลวดลายสวยงามและมีสีสันที่เหมือนไม้จริงที่สุด แต่ก็มีส่วนประกอบของไม้จริงอยู่เช่นกัน จึงไม่เหมาะกับการติดตังนอกอาคารสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อโดนความชื้น น้ำค้างหรือฝนตกใส่ จะทำให้พื้นไม้บวมและพองขึ้นมาจนดูไม่สวยได้นั่นเอง


ข้อควรจำ และควรหลีกเลี่ยงที่สุดของพื้นลามิเนต

เมื่อปูพื้นด้วยพื้นไม้ลามิเนต คุณจะต้องให้ความใส่ใจ ดูแลเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าพื้นจะมีความทนทานสูงและทำความสะอาดได้ง่าย แต่ก็มีสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้พื้นเกิดความเสียหายได้ง่ายเช่นกัน  ซึ่งก็มีข้อควรจำและควรหลีกเลี่ยงเมื่อใช้งานพื้นไม้ลามิเนต ดังนี้

1. ห้ามปูพื้นไม้ลามิเนตบนพื้นพรมหรือตรงจุดที่มีความชื้นสูง เพราะถึงแม้ว่าจะมีการเคลือบสารป้องกันความชื้นมาอย่างแน่นหนา แต่เมื่อสัมผัสกับความชื้นสูงนานๆ ก็สามารถทำให้พื้นไม้เกิดความเสียหายได้

2. แถวแรกของการปูพื้นด้วยไม้ลามิเนตมีความสำคัญที่สุด เพราะหากปูแถวแรกเบี้ยว แถวต่อๆ ไปก็จะเบี้ยวตามเช่นกัน ดังนั้นในการปูพื้นไม้ลามิเนต ควรให้ความใส่ใจกับการปูแถวแรกให้ดี เพื่อให้ผลงานออกมาดูดีที่สุด

3. ไม่ควรใช้น้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่หรือน้ำยาขัดเงากับพื้นไม้ลามิเนต เพราะอาจทำลายสารที่เคลือบมากับลามิเนตได้

4. หลีกเลี่ยงการสวมรองเท้าส้นแหลมเมื่อเดินบนพื้นลามิเนต เพราะถึงแม้ผิวสัมผัสของพื้นลามิเนตจะมีความทนทานสูง แต่เมื่อโดนกับความแหลมและแรงกดจากการเดินบนรองเท้าส้นแหลมเข้าไป ก็อาจก่อให้เกิดรอยอันไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน

5. ไม่ควรราดน้ำลงบนพื้นเพื่อเช็ดทำความสะอาด เพราะอาจทำให้ไม้พองบวมขึ้นมา หรือลอกเป็นลอนๆ ได้ ทางที่ดีควรใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำบิดหมาดๆ แล้วนำมาเช็ดถูมากกว่า ที่สำคัญจะต้องใช้ผ้าแห้งเช็ดตามหลังเพื่อลดความชื้นอีกทีเดียว


ไม้ลามิเนต เป็นไม้ที่เหมาะกับการปูพื้นบ้านเพื่อให้ความสวยงามแบบธรรมชาติที่สุด เพราะมีลวดลายและสีสันที่สวยงามเหมือนไม้จริง แถมยังมีความคงทน แข็งแรง ทนทานต่อรอยขีดข่วนและสามารถรับน้ำหนักที่กดทับลงไปได้ดีอีกด้วย แต่ทั้งนี้ก็จะต้องดูแลรักษาพื้นไม้ลามิเนตอย่างเหมาะสม เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นนั่นเอง

Post A Comment:

0 comments:

babbaan.in V. Powered by Blogger.