บ้านที่มีพื้นที่จำกัดน่าจะสร้างความอึดอัดไม่น้อยสำหรับเจ้าของบ้านหลายคน ครั้นจะซื้อบ้านใหม่ก็ใช่ที่หากสถานะทางการเงินไม่พร้อม แล้วจะทำยังไงดี..? ที่จริงแล้วความอึดอัดนี้สามารถแก้ไขได้ง่ายๆด้วยเทคนิคการตกแต่งบ้านวันนี้เราเลยขอนำ 12 ทริคการตกแต่งบ้านอย่างไรให้ดูกว้างขึ้นมาฝากกัน
1. กำแพงและพื้น
เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ในบ้าน และเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากที่จะทำให้บ้านดูแคบลงหรือกว้างขึ้น การตกแต่งพื้นที่เหล่านี้ด้วยหลากหลายสีและลวดลาย จะทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพื้นที่ที่มีใหญ่หรือเล็กมากแค่ไหน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือห้องที่ดูแคบลง กลับกันหากการที่กำแพงและพื้นถูกตกแต่งด้วยสีอ่อนๆที่อยู่ในกลุ่มโทนเดียวกันจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น หรืออาจตกแต่งแบบ monochromatic โดยใช้สีเดียวเลยก็ได้ เคยมัยเวลาหาบ้านให้เช่า แล้วรู้สึกว่าบ้านหนึ่งดูกว้างกว่าอีกหลังทั้งที่มีขนาดใกล้เคียงกันเพียงแค่เลือกใช้สีผนังหรือสีพื้นโทนอ่อนก็สามารถทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
Photo: hative.com
7. ชั้นวางของ
ชั้นวางของที่ตั้งบนพื้นสูงจรดเพดาน นอกจากจะช่วยทำให้ห้องดูสูงขึ้น ยังเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บขึ้นอีกด้วย ไม่มีคำว่ามากเกินไปสำหรับที่จัดเก็บของหรอกค่ะ ลองผสมผสานการใช้ชั้นเก็บของทั้งรูปแบบเปิดและปิด เช่น โชว์หนังสือบนชั้นและเก็บของที่ไม่จำเป็นในชั้นที่ปิด ถ้าเปิดหมดอาจดูรกเกินไป อาจจะทำที่เก็บของตรงทางเดิน บนประตูหรือใต้โซฟา
8. เฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กไม่ได้ทำให้ห้องดูกว้างเสมอไป หากมากชิ้นเกินไป ก็ทำให้เกะกะได้เช่นกัน เลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่แต่น้อยชิ้นจะดีกว่า โดยเฉพาะชิ้นที่สามารถใช้ไปหลายแบบเช่น โต๊ะที่สามารถวางของได้ เก็บของได้ นั่งได้ ทำให้ลดจำนวนเฟอร์นิเจอร์และช่วยขยายพื้นที่ในบ้าน
สำหรับรูปแบบของเฟอร์นิเจอร์นั้น อาจเลือกใช้วงกลมเพราะใช้พื้นที่น้อยกว่า หรือใช้เฟอร์นิเจอร์สีเดียวกับห้องเพื่อความกลมกลืนและไม่สะดุดตาหรืออาจเลือกวัสดุที่มองทะลุได้ เช่น กระจกใสหรือพลาสติก วัสดุที่สะท้อนได้ดี เช่นกระจก หรือหินอ่อน
ให้เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สูงมาก ติดพื้นได้เป็นดี เพราะจะช่วยเพิ่มพื้นที่ด้านบน ทำให้เพดานดูสูงขึ้น เช่น การวางที่นอนบนพื้น หลีกเลี่ยงโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟสูง ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะมีผลมากในการเพิ่งความสูงของเพดาน แต่อาจจะทำให้ด้านล่างดูอึดอัดได้ ลองใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขา สูงจากพื้นเล็กน้อย เช่น โซฟาที่มีขาตั้งตรง จะช่วยทั้งความสูงและความปลอดโปร่งของห้อง
9. รูปตกแต่ง
รูปก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ เพราะสามารถช่วยให้การตกแต่งทั้งหมดดูมีสไตล์มากขึ้น การแขวนรูปควรวางให้สูงกว่าระดับสายตาเพื่อดึงสายตาขึ้นไปด้านบน ทำให้ห้องดูสูงขึ้น อาจเริ่มจากการเลือกชิ้นใหญ่มาหนึ่งชิ้น และเติมสามสี่ชิ้นเล็กเข้าไป หรืออาจใช้รูปขนาดใกล้เคียงกันก็ได้ ข้อควรระวังคือ ความสมดุลของการจัดวางรูป อีกทั้งรูปควรมีความกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้และสไตล์การตกแต่งห้องด้วย
10. ของตกแต่งจุกจิก
ถ้าหากบ้านมีพื้นที่ใช้สอยน้อยนิดอยู่แล้ว การนำสิ่งของออกมาตั้งโชว์มากมาย นอกจากจะไม่ได้ช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้น ยังทำให้บ้านดูรกและแคบลงไปอีก ตัดใจเลือกเฉพาะชิ้นที่ชอบจริงๆน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ถ้าหากมีหลายชิ้น ผลัดเปลี่ยนกันทุกอาทิตย์ก็ไม่ผิดอะไร
การตกแต่งบ้านด้วยวิธีที่กล่าวมาทั้งหมด เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ได้เริ่มลงมือตกแต่งบ้าน สำหรับคนที่ทำการตกแต่งไปแล้ว จะเปลี่ยนแปลงการตกแต่งทั้งหมดก็คงจะต้องเสียงบประมาณค่อนข้างมาก เราเลยนำวิธีง่ายๆแบบประหยัดงบมาให้เป็นไอเดียกันด้วยค่ะ มี 2 วิธีดังนี้
11.เคลียร์ทางเดินและวางเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกที่
ทางเดินที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาบ่อยๆไม่ควรมีของเกะกะแทนที่จะวางตรงกลาง ลองขยับไปริมห้องดูสิ
การดันเฟอร์นิเจอร์ติดผนังไม่ได้ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นเสมอไป ลองจัดเปลี่ยนการวางโดยเว้นว่างพื้นที่รอบๆเฟอร์นิเจอร์ดูเผลอๆอาจได้บ้านที่ดูใหญ่ขึ้นหลายเท่าเลยล่ะ
12. เก็บของให้เป็นระเบียบ
การเก็บของให้เป็นระเบียบ จะทำให้ห้องดูกว้าง ของอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดใจทิ้งไปบ้างก็ได้ เก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ เครื่องเขียนใส่โหลหรือลิ้นชัก เหรียญใส่กระปุกออมสินหมูน้อย เหลือไว้แต่พื้นที่ที่โล่ง แค่นี้บ้านก็สะอาดและกว้างกว่าความเป็นจริงแล้ว
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับทริคต่างๆที่กล่าวมา สรุปแล้ว กฎหลักๆเลยก็คือ ความกลมกลืนของสีและลายเส้นที่ต่อเนื่อง ไม่มีจุดสิ้นสุดของพื้นที่ การตกแต่งตั้งแต่เพดานจรดพื้นเพื่อเพิ่มความสูง ไม่ใช้เฟอร์นิเจอร์เยอะชิ้นและไม่เก็บของจนล้นบ้านเกินความจำเป็น ติดกระจกสะท้อนเพื่อเพิ่มความกว้าง ปล่อยให้แสงเล็ดลอดเข้ามาบ้างเพื่อสร้างความปลอดโปร่ง ถ้าร้อนระอุจนทนไม่ไหว ติดผ้าม่านบางๆสีอ่อนก็สามารถทำได้
โดยทั้งนี้ทั้งนั้น 12 วิธีการตกแต่งที่ยกมา ไม่ใช่กฎตายตัว ไม่มีอะไรถูกหรือผิด เป็นแค่ไอเดียที่เป็นไปได้เท่านั้น ซึ่งคุณอาจลองหาไอเดียเหล่านี้เพิ่มเติมได้ทั้งในนิตยสาร รายการทีวี เว็บไซต์ตกแต่งบ้าน หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ที่มีการประกาศขายบ้าน ลองจับคู่ทริคนั้นผสมทริคนี้และปรับใช้กับพื้นที่ส่วนตัวที่คุณมีอยู่จะเป็นการดีที่สุด
เนื้อหาอ้างอิงจาก insideout.com.auและremodelista.com
จัดห้องให้ดูขนาดใหญ่ขึ้น |
1. กำแพงและพื้น
เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ในบ้าน และเป็นส่วนที่สำคัญอย่างมากที่จะทำให้บ้านดูแคบลงหรือกว้างขึ้น การตกแต่งพื้นที่เหล่านี้ด้วยหลากหลายสีและลวดลาย จะทำให้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าพื้นที่ที่มีใหญ่หรือเล็กมากแค่ไหน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือห้องที่ดูแคบลง กลับกันหากการที่กำแพงและพื้นถูกตกแต่งด้วยสีอ่อนๆที่อยู่ในกลุ่มโทนเดียวกันจะทำให้ห้องดูกว้างขึ้น หรืออาจตกแต่งแบบ monochromatic โดยใช้สีเดียวเลยก็ได้ เคยมัยเวลาหาบ้านให้เช่า แล้วรู้สึกว่าบ้านหนึ่งดูกว้างกว่าอีกหลังทั้งที่มีขนาดใกล้เคียงกันเพียงแค่เลือกใช้สีผนังหรือสีพื้นโทนอ่อนก็สามารถทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้
Photo: hative.com
ใช้ลวดลายที่ไม่มีรอยต่อ เช่น ลายขวาง ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง จะช่วยสร้างให้เกิดความต่อเนื่อง ประหนึ่งว่า ไม่มีที่สิ้นสุดของกำแพง ซึ่งทำให้พื้นที่ทั้งหมดถูกรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นห้องที่ดูใหญ่ขึ้น
อีกหนึ่งทางเลือกคือแบ่งผนังห้องตามแนวนอน แล้วทาสองสีโดยอาจจะทาสีอ่อนด้านบนและทาสีเข้มด้านล่าง หรือจะสลับกันก็ยังได้ แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ วิธีนี้จะช่วยให้เพดานดูสูงขึ้น
ถ้าหากเลือกที่จะใช้พื้นไม้ ควรเลือกไม้ที่หน้ากว้าง ถ้าเลือกใช้กระเบื้อง ให้เลือกกระเบื้องแผ่นใหญ่ ถ้าปูพรมบนพื้นควรมีขนาดเล็กและปูไว้ใต้โซฟาเพื่อที่ห้องจะได้ดูไม่อึดอัด
2. เพดาน
การตกแต่งเพดานด้วยสีเดียวกันกับกำแพงและพื้นเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและตกแต่งได้ง่ายที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการลูกเล่นที่มากกว่านั้น ลองทาสีเพดานด้วยสีเข้ม หรือติดวอลเปเปอร์โดยที่สีพื้นและกำแพงจะอยู่ในกลุ่มโทนเดียวกัน จะช่วยหลอกสายตาได้ดีเลยค่ะว่าห้องมีเพดานที่สูงขึ้น
3. หน้าต่าง
ลวงตาว่าพื้นที่กำแพงใหญ่ขึ้นด้วยการทาสีขอบหน้าต่างด้วยสีเดียวกันกับกำแพง นอกจากนี้ การแขวนผ้าม่าน ควรแขวนให้สูงถึงเพดานและความยาวเกือบถึงพื้นช่วยให้ห้องดูสูงขึ้น ซึ่งผ้าม่านที่ใช้ควรเป็นสีอ่อน หรืออาจไม่ติดผ้าม่านเลยก็ได้เพราะการที่มีแสงส่องผ่านลอดเข้ามาในบ้านก็ทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น
4. ประตู
เช่นเดียวกับขอบหน้าต่าง ควรทาสีเดียวกันกับกำแพงเพื่อเพิ่มพื้นที่ ใช้ประตูบานเลื่อนจะดีกว่าใช้ประตูแบบเปิดเข้าเปิดออก ถึงแม้จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้นิดหน่อยก็ยังดี ถ้าหากเป็นไปได้ ถอดประตูออกไปเลยน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด
5. Open space design เปิดพื้นที่ให้โล่ง
ไอเดียการตกแต่งนี้จะคล้ายกับการถอดประตู เพราะฉากกั้น กำแพง หรือประตูทำหน้าที่เหมือนการปิดพื้นที่ ทำให้ห้องมีสัดส่วนที่ชัดเจนเกินไป แต่ถ้าหากนำสิ่งกีดขวางพวกนี้ออกไป จะทำให้ทุกๆห้องรวมกันเป็นหนึ่งพื้นที่ใหญ่ ดูโล่งและกว้างกว่า ถ้าหากอยากกั้นห้องจริงๆให้ใช้กระจกใสเพราะยังสามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมดได้ แต่ถึงแม้ไม่ได้กั้นห้อง เราก็ยังสามารถจัดสรรห้องให้เป็นสัดส่วนได้เช่นกัน
6. กระจกสะท้อน
นับว่าเป็นเบสิคทริคสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งพื้นที่แคบกันเลยทีเดียว กระจกสะท้อนทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้ยังสะท้อนแสงธรรมชาติที่ลอดเข้ามาในห้องทำให้ห้องสว่างขึ้นอีกด้วย อาจติดกระจกไว้ที่ผนังโล่งหรือวางไว้บนพื้นก็ได้ การติดกระจกให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด คือ ติดตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดาน อาจจะติดใกล้กับหน้าต่างหรือติดบนตู้เสื้อผ้าก็ได้
การตกแต่งเพดานด้วยสีเดียวกันกับกำแพงและพื้นเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและตกแต่งได้ง่ายที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการลูกเล่นที่มากกว่านั้น ลองทาสีเพดานด้วยสีเข้ม หรือติดวอลเปเปอร์โดยที่สีพื้นและกำแพงจะอยู่ในกลุ่มโทนเดียวกัน จะช่วยหลอกสายตาได้ดีเลยค่ะว่าห้องมีเพดานที่สูงขึ้น
ลวงตาว่าพื้นที่กำแพงใหญ่ขึ้นด้วยการทาสีขอบหน้าต่างด้วยสีเดียวกันกับกำแพง นอกจากนี้ การแขวนผ้าม่าน ควรแขวนให้สูงถึงเพดานและความยาวเกือบถึงพื้นช่วยให้ห้องดูสูงขึ้น ซึ่งผ้าม่านที่ใช้ควรเป็นสีอ่อน หรืออาจไม่ติดผ้าม่านเลยก็ได้เพราะการที่มีแสงส่องผ่านลอดเข้ามาในบ้านก็ทำให้บ้านดูโปร่งมากขึ้น
หน้าต่างทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นได้ |
4. ประตู
เช่นเดียวกับขอบหน้าต่าง ควรทาสีเดียวกันกับกำแพงเพื่อเพิ่มพื้นที่ ใช้ประตูบานเลื่อนจะดีกว่าใช้ประตูแบบเปิดเข้าเปิดออก ถึงแม้จะช่วยประหยัดพื้นที่ได้นิดหน่อยก็ยังดี ถ้าหากเป็นไปได้ ถอดประตูออกไปเลยน่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด
5. Open space design เปิดพื้นที่ให้โล่ง
ไอเดียการตกแต่งนี้จะคล้ายกับการถอดประตู เพราะฉากกั้น กำแพง หรือประตูทำหน้าที่เหมือนการปิดพื้นที่ ทำให้ห้องมีสัดส่วนที่ชัดเจนเกินไป แต่ถ้าหากนำสิ่งกีดขวางพวกนี้ออกไป จะทำให้ทุกๆห้องรวมกันเป็นหนึ่งพื้นที่ใหญ่ ดูโล่งและกว้างกว่า ถ้าหากอยากกั้นห้องจริงๆให้ใช้กระจกใสเพราะยังสามารถมองเห็นพื้นที่ทั้งหมดได้ แต่ถึงแม้ไม่ได้กั้นห้อง เราก็ยังสามารถจัดสรรห้องให้เป็นสัดส่วนได้เช่นกัน
6. กระจกสะท้อน
นับว่าเป็นเบสิคทริคสำหรับคนที่ต้องการตกแต่งพื้นที่แคบกันเลยทีเดียว กระจกสะท้อนทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นหลายเท่า นอกจากนี้ยังสะท้อนแสงธรรมชาติที่ลอดเข้ามาในห้องทำให้ห้องสว่างขึ้นอีกด้วย อาจติดกระจกไว้ที่ผนังโล่งหรือวางไว้บนพื้นก็ได้ การติดกระจกให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด คือ ติดตั้งแต่พื้นไปจนถึงเพดาน อาจจะติดใกล้กับหน้าต่างหรือติดบนตู้เสื้อผ้าก็ได้
7. ชั้นวางของ
ชั้นวางของที่ตั้งบนพื้นสูงจรดเพดาน นอกจากจะช่วยทำให้ห้องดูสูงขึ้น ยังเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บขึ้นอีกด้วย ไม่มีคำว่ามากเกินไปสำหรับที่จัดเก็บของหรอกค่ะ ลองผสมผสานการใช้ชั้นเก็บของทั้งรูปแบบเปิดและปิด เช่น โชว์หนังสือบนชั้นและเก็บของที่ไม่จำเป็นในชั้นที่ปิด ถ้าเปิดหมดอาจดูรกเกินไป อาจจะทำที่เก็บของตรงทางเดิน บนประตูหรือใต้โซฟา
8. เฟอร์นิเจอร์
เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็กไม่ได้ทำให้ห้องดูกว้างเสมอไป หากมากชิ้นเกินไป ก็ทำให้เกะกะได้เช่นกัน เลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่แต่น้อยชิ้นจะดีกว่า โดยเฉพาะชิ้นที่สามารถใช้ไปหลายแบบเช่น โต๊ะที่สามารถวางของได้ เก็บของได้ นั่งได้ ทำให้ลดจำนวนเฟอร์นิเจอร์และช่วยขยายพื้นที่ในบ้าน
ให้เน้นเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่สูงมาก ติดพื้นได้เป็นดี เพราะจะช่วยเพิ่มพื้นที่ด้านบน ทำให้เพดานดูสูงขึ้น เช่น การวางที่นอนบนพื้น หลีกเลี่ยงโต๊ะ เก้าอี้ โคมไฟสูง ถึงแม้ว่าวิธีนี้จะมีผลมากในการเพิ่งความสูงของเพดาน แต่อาจจะทำให้ด้านล่างดูอึดอัดได้ ลองใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีขา สูงจากพื้นเล็กน้อย เช่น โซฟาที่มีขาตั้งตรง จะช่วยทั้งความสูงและความปลอดโปร่งของห้อง
9. รูปตกแต่ง
รูปก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่สำคัญ เพราะสามารถช่วยให้การตกแต่งทั้งหมดดูมีสไตล์มากขึ้น การแขวนรูปควรวางให้สูงกว่าระดับสายตาเพื่อดึงสายตาขึ้นไปด้านบน ทำให้ห้องดูสูงขึ้น อาจเริ่มจากการเลือกชิ้นใหญ่มาหนึ่งชิ้น และเติมสามสี่ชิ้นเล็กเข้าไป หรืออาจใช้รูปขนาดใกล้เคียงกันก็ได้ ข้อควรระวังคือ ความสมดุลของการจัดวางรูป อีกทั้งรูปควรมีความกลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้และสไตล์การตกแต่งห้องด้วย
10. ของตกแต่งจุกจิก
ถ้าหากบ้านมีพื้นที่ใช้สอยน้อยนิดอยู่แล้ว การนำสิ่งของออกมาตั้งโชว์มากมาย นอกจากจะไม่ได้ช่วยให้บ้านดูกว้างขึ้น ยังทำให้บ้านดูรกและแคบลงไปอีก ตัดใจเลือกเฉพาะชิ้นที่ชอบจริงๆน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ถ้าหากมีหลายชิ้น ผลัดเปลี่ยนกันทุกอาทิตย์ก็ไม่ผิดอะไร
การตกแต่งบ้านด้วยวิธีที่กล่าวมาทั้งหมด เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่ได้เริ่มลงมือตกแต่งบ้าน สำหรับคนที่ทำการตกแต่งไปแล้ว จะเปลี่ยนแปลงการตกแต่งทั้งหมดก็คงจะต้องเสียงบประมาณค่อนข้างมาก เราเลยนำวิธีง่ายๆแบบประหยัดงบมาให้เป็นไอเดียกันด้วยค่ะ มี 2 วิธีดังนี้
11.เคลียร์ทางเดินและวางเฟอร์นิเจอร์ให้ถูกที่
ทางเดินที่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาบ่อยๆไม่ควรมีของเกะกะแทนที่จะวางตรงกลาง ลองขยับไปริมห้องดูสิ
การดันเฟอร์นิเจอร์ติดผนังไม่ได้ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นเสมอไป ลองจัดเปลี่ยนการวางโดยเว้นว่างพื้นที่รอบๆเฟอร์นิเจอร์ดูเผลอๆอาจได้บ้านที่ดูใหญ่ขึ้นหลายเท่าเลยล่ะ
12. เก็บของให้เป็นระเบียบ
การเก็บของให้เป็นระเบียบ จะทำให้ห้องดูกว้าง ของอะไรที่ไม่จำเป็นก็ตัดใจทิ้งไปบ้างก็ได้ เก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ เครื่องเขียนใส่โหลหรือลิ้นชัก เหรียญใส่กระปุกออมสินหมูน้อย เหลือไว้แต่พื้นที่ที่โล่ง แค่นี้บ้านก็สะอาดและกว้างกว่าความเป็นจริงแล้ว
เป็นยังไงบ้างคะสำหรับทริคต่างๆที่กล่าวมา สรุปแล้ว กฎหลักๆเลยก็คือ ความกลมกลืนของสีและลายเส้นที่ต่อเนื่อง ไม่มีจุดสิ้นสุดของพื้นที่ การตกแต่งตั้งแต่เพดานจรดพื้นเพื่อเพิ่มความสูง ไม่ใช้เฟอร์นิเจอร์เยอะชิ้นและไม่เก็บของจนล้นบ้านเกินความจำเป็น ติดกระจกสะท้อนเพื่อเพิ่มความกว้าง ปล่อยให้แสงเล็ดลอดเข้ามาบ้างเพื่อสร้างความปลอดโปร่ง ถ้าร้อนระอุจนทนไม่ไหว ติดผ้าม่านบางๆสีอ่อนก็สามารถทำได้
โดยทั้งนี้ทั้งนั้น 12 วิธีการตกแต่งที่ยกมา ไม่ใช่กฎตายตัว ไม่มีอะไรถูกหรือผิด เป็นแค่ไอเดียที่เป็นไปได้เท่านั้น ซึ่งคุณอาจลองหาไอเดียเหล่านี้เพิ่มเติมได้ทั้งในนิตยสาร รายการทีวี เว็บไซต์ตกแต่งบ้าน หรือแม้กระทั่งเว็บไซต์ที่มีการประกาศขายบ้าน ลองจับคู่ทริคนั้นผสมทริคนี้และปรับใช้กับพื้นที่ส่วนตัวที่คุณมีอยู่จะเป็นการดีที่สุด
เนื้อหาอ้างอิงจาก insideout.com.auและremodelista.com
Post A Comment:
0 comments: