บ้าน นอกจากต้องให้ความใส่ใจในเรื่องของการตกแต่ง เพื่อให้บ้านดูมีสีสัน น่าอยู่ขึ้นแล้ว ก็ต้องใส่ใจในเรื่องของสิ่งอัปมงคลที่ไม่ควรมีอยู่ในบ้านด้วย เพราะเชื่อกันว่า หากบ้านไหนมีสิ่งเหล่านั้นอยู่ จะทำให้บ้านมีแต่ความวุ่นวายและอาจนำมาซึ่งโชคร้ายต่อคนในบ้านอีกด้วย ซึ่งสิ่งอัปมงคลที่ว่านี้จะมีอะไรบ้างนั้น babbaan.in จะพาไปดูกัน

1. กระจก

สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

          กระจกเป็นสิ่งที่ทุกบ้านน่าจะมีกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นตู้กระจก โต๊ะเครื่องแป้งที่มีกระจกเป็นส่วนประกอบหรือ ประตูหน้าต่างที่เป็นกระจก และถ้ามันเกิดแตกขึ้นมาไม่ว่าจะเป็นเพราะความเก่าหรืออุบัติเหตุ ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่าไม่ควรมีกระจกแตกอยู่ในบ้านเด็ดขาดเพราะเหมือนกับจะสื่อว่าคนในบ้านจะมีคนเจ็บไม่จบไม่สิ้น รวมทั้งจะดูดเอาพลังงานร้ายเข้าบ้านมาอีกต่างหาก ทางที่ดีถ้ามีก็ให้นำไปทิ้งเสีย แต่ถ้าเป็นกระจกขนาดใหญ่ที่ร้าวอยู่ยังไม่สามารถถอดออกเปลี่ยนได้ในทันที ก็ให้หารูปภาพหรือผ้าม่านมาปิดไว้ก่อน จนกว่าจะเปลี่ยนออกไปในอนาคต


2.นาฬิกาตาย

สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

          ตามหลักฮวงจุ้ยได้บอกเอาไว้เลยว่าของที่พังเสียหายแล้วไม่ควรเก็บไว้ในบ้าน รวมทั้งนาฬิกาตายด้วย เพราะจะสื่อถึงการที่คนในบ้านเจ็บไข้และตายขึ้นมาได้ ทางออกดีที่สุดก็ควรเอาไปทิ้งดีกว่า แต่ถ้ามันเป็นของมีค่าทางใจหรือเป็นวัตถุโบราณที่น่าเก็บสะสมก็นำไปซ่อมให้ใช้การได้ดีกว่านะ

3.  ปฏิทินเก่า

สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

          สำหรับปฏิทินเก่า ตามหลักฮวงจุ้ยบอกไว้ว่ามันหมายถึงการแสดงวันเดือนปีที่ผิดเพี้ยนไปจากปัจจุบัน ทำให้เหตุการณ์ต่างๆที่ไม่ดีในอดีตอาจส่งผลลบให้กับชีวิตได้ ดังนั้นถ้ามีปฏิทินเก่าอยู่ก็เอาไปทิ้งซะ หรือหากเสียดายรูปภาพที่อยู่บนปฏิทินก็อาจตัดเอาแต่รูปภาพเก็บไว้ ส่วนตัวปฏิทินที่มีเลขก็เอาทิ้งถังขยะจบไปไม่ต้องมานั่งกังวลอีก

4. จาน-ชามแตก

สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

          จาน ชามเป็นสิ่งที่ทุกบ้านจำเป็นต้องใช้และเมื่อใช้บ่อยๆก็สามารถแตก ร้าว หรือบิ่นได้ ซึ่งตามหลักฮวงจุ้ยก็บอกไว้เช่นกันว่า หากจานชามที่บ้าน บิ่น แตก ร้าว สิ่งที่ควรทำได้ดีที่สุดก็คือการนำไปทิ้ง ต่อให้เป็นจาน ชาม ที่มีคุณค่าทางใจอย่างไร สวยและแพงขนาดไหน แต่ถ้ามันจะหมายถึงการสะกดให้คนในบ้านพบเจอแต่เรื่องแย่ๆเสียดายแค่ไหนก็ควรโยนทิ้งบอกเลย

5. ต้นไม้มีหนาม/ต้นไม้ที่ตายแล้ว

สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

          ต้นไม้มีหนามอย่างกระบองเพชร โป๊ยเซียน หรือพืชอื่นๆที่มีหนามแหลมคม ตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่ามันหมายถึงต้นไม้เหล่านี้นำมาซึ่งพลังงานด้านลบและความโชคร้ายมาสู่คนในบ้าน หากเป็นไปได้ก็ควรโยกย้ายที่เสียใหม่แล้วเอาพวกไม้มงคลมาปลูกแทนจะดีกว่า และยิ่งร้ายไปกว่านั้นคือการปลูกต้นไม้แล้วไม่ดูแลจนตายไป แบบนี้ขอให้นำไปทิ้งแล้วเปลี่ยนใหม่จะดีกว่า เพราะมันกำลังบ่งบอกว่าเป็นการเปิดทางให้สิ่งไม่ดีและความโชคร้ายก้าวเข้ามาในชีวิต ยังไงต่อไปนี้ก็ดูแลต้นไม้ให้ดีหน่อยนะ ต้นไม้สดชื่นเจ้าของบ้านก็จะได้สดชื่นด้วย

6. ประตูสีดำ

สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

          ถึงแม้หลายคนอาจบอกว่าการแต่งบ้านด้วยประตูสีดำเป็นเทรนด์ที่กำลังมา แต่สำหรับหลักฮวงจุ้ยกลับบอกว่ามันไม่เข้าท่าเอาเสียเลย เพราะมันหมายถึงประตูที่จะนำพาซึ่งความโชคร้ายให้กับเรา และเป็นประตูที่คอยเปิดต้อนรับสิ่งไม่ดีให้เข้ามาในบ้านทางที่ดีเปลี่ยนเป็นประตูสีอื่นดีกว่านะ อ้อ!แต่ก็มีข้อยกเว้นเหมือนกัน หากประตูที่หันหน้าไปทางทิศเหนือพอดิบพอดี แบบนี้ไม่เป็นไรสบายใจได้

7.  เก้าอี้โยกที่ไม่ได้ใช้งาน

สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

          สำหรับบ้านไหนที่สืบเชื้อสายมาหลายรุ่นแล้วอาจพบว่าที่บ้านมีเก้าอี้โยกวางอยู่ ซึ่งก็ไม่แปลกอะไรเพราะเก้าอี้โยกนั่งสบาย นั่งไปโยกไปเพลินจนหลับไปเลยก็มี แต่ถ้าหากได้รับเก้าอี้โยกเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษมา แล้วก็ปล่อยวางอยู่ในบ้านโดยไม่ได้ใช้งานเลยแบบนี้ไม่ดีแน่ เพราะตามหลักฮวงจุ้ยบอกว่ามันผิดอย่างแรง เพราะเชื่อกันว่า หากปล่อยให้เก้าอี้โยกที่ว่านี้ว่างเปล่าและไม่มีการใช้งาน พลังงานในด้านมืดก็จะมานั่งอยู่บนเก้าอี้แทน และซ้ำร้ายไปกว่านั้นหากเก้าอี้เกิดโยกขึ้นเอง ก็แสดงว่ามีวิญญาณร้ายเข้าสิงอยู่และจะนำพามาซึ่งความโชคร้ายหรือการสูญเสียภายในบ้าน ทางที่ดีถ้ามีอยู่ก็ขยันไปนั่งหน่อยละกันนะ

8.  ผนังสีเขียว


สิ่งที่ไม่ควรมีในบ้าน

         ข้อสุดท้ายนี้อาจทำเอาหลายคนประหลาดใจ เพราะการทาสีเขียวจะไม่ดีได้อย่างไร แต่ในอดีตเคยมีการนำสารหนูมาทาผนังให้เป็นสีเขียวและเมื่อผนังเริ่มแห้ง สารที่ทาไปก็จะปล่อยก๊าซพิษออกมาเพื่อฆ่าคน จึงเกิดความเชื่อตกทอดมาว่าผนังสีเขียวเป็นผนังอัปมงคลนั่นเอง

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ลองเช็คดูหน่อยสิว่า ในบ้านของคุณมีสิ่งเหล่านี้อยู่หรือไม่ ถ้ามี ควรรีบนำออกจากบ้านโดยด่วน พร้อมกับนำเครื่องราง สิ่งดีๆ เข้ามาในบ้านแทน แล้วบ้านของคุณจะมีแต่ความสุขสงบ และมีโชคลาภไหลเวียนเข้ามาอย่างต่อเนื่องแน่นอน

Post A Comment:

0 comments:

babbaan.in V. Powered by Blogger.