ข้อมูลวอลเปเปอร์ติดผนัง เลือกอย่างไรให้คุ้มและดี

                Wallpaper ติดผนังเป็นที่นิยมในหมู่นักตกแต่งบ้านชาวไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในปัจจุบันมีลวดลายให้เลือกมากมายจึงเพิ่มความนิยมขึ้นเรื่อยๆ จริงแล้ว วอลเปเปอร์ถือกำเนิดขึ้นเมื่อราวศตวรรษที่ 16 โดยมีต้นกำเนิดในยุโรปตั้งแต่ยุคกลาง โดยส่วนใหญ่ใช้ในบ้านของเหล่าชนชั้นสูงเพื่อเพิ่มสีสันความสวยงามให้กับผนัง ห้อง อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นฉนวนกั้นผนังหินกับภายในห้อง เพื่อรักษาอุณหภูมิให้อบอุ่นอยู่เสมอ ในช่วงแรกๆ นั้นเป็นผนังผ้าซึ่งมีราคาสูง จึงมีการคิดค้นนำมาทำเป็นกระดาษแทนโดยมีการพิมพ์ลายลงกระดาษ จนกระทั่งสามารถทำเป็นม้วนกระดาษยาวๆ ถึง 10.5 เมตรได้ในช่วงศตวรรษที่ 17 จนมาถึงปัจจุบัน วอลเปเปอร์กลายเป็นที่นิยมสำหรับคนทั่วไปและไม่ได้จำกัดเพียงแค่ชนชั้นสูง อีกต่อไป โดยมีวัสดุและลายให้เลือกเพิ่มขึ้นมากมาย

วอลเปเปอร์ติดผนัง

                Wallpaper แปลตรงตัวคือกระดาษติดผนัง แต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นเพียงแค่กระดาษอีกต่อไป เพราะลวดลายมีการออกแบบที่สวยงามวิจิตร บรรจง สร้างสรรค์จึงทำให้งานวอลเปเปอร์ทรงคุณค่า สวยงามและตกแต่งได้อย่างหลากหลาย วอลเปเปอร์ติดผนังในปัจจุบันมีมากมายหลากหลายแบบทั้งสี ดีไซน์ วัสดุที่ใช้ เทคโนโลยีกับคุณสมบัติพิเศษที่มีมากขึ้น ที่สำคัญคือความสะดวกในการติดตั้ง รวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นกาวต่างๆ และอายุการใช้งานนาน


การเลือกวัสดุ วอลเปเปอร์ติดผนังให้เหมาะสมกับบ้าน
                วอลเปเปอร์ส่วนใหญ่ผลิตจากวัสดุประเภทกระดาษ ผ้า ยิปซั่มแล้วเคลือบผิวหน้าด้วยโฟม ไวนิล พีวีซี หรือเส้นใยธรรมชาติ พร้อมพิมพ์ลายให้มีความสวยงาม และมีหลากหลายรูปแบบ
วอลเปเปอร์ผิวโฟม (FOME WALLPAPER COVERING) 

                วอลเปเปอร์ชนิดนี้จะให้เนื้อสัมผัสอ่อนนุ่ม นุ่มนวล มีความลึกมากกว่าวอลเปเปอร์ชนิดอื่น ทำให้ลายที่ออกมาจะเป็นแบลายนูนต่ำ ส่วนมากจะผลิตเป็นลายสไตล์ Contemporary ร่วมสมัย และลายสำหรับเด็ก นิยมใช้ลายแบบโฟมในการติดฝ้า เพดาเสียเป็นส่วนใหญ่
วอลเปเปอร์นอน-วู-เว่น (Non woven wallpaper) 

                เป็นนวัตกรรมใหม่ที่เป็นวอลเปเปอร์ผลิตจากใยเซลลูโลส เยื่อไม้ธรรมชาติ ทำให้มีน้ำหนักเบา ติดตั้งง่ายกว่ากระดาษ ทนทานฉีกขาดยากและระบายความชื้นได้ดี

Photo wall ภาพวิว
                วอลเปเปอร์ที่นำเอารูปถ่ายธรรมชาติหรือลวดลายธรรมชาติ ภาพเขียนมาติดบนฝาผนัง

วอลเปเปอร์แบบผ้า

                วอลเปเปอร์แบบนี้ผลิตจากผ้าจริง ทำให้มีความนุ่มนวลสื่ออารมณ์ของผ้าได้ดี ที่สำคัญมีความคงทนสูงไม่ฉีกขาดง่าย ส่วนใหญ่จะเน้นด้านหน้ากว้างของผ้า เพื่อลดรอยต่อให้น้อยที่สุด

วอลเปเปอร์แบบกระดาษ

                วอลเปเปอร์ชนิดนี้นิยมมีความหนาน้อยกว่าชนิดอื่นๆ ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องของลวดลายและสีสัน นิยมใช้กับห้องเด็กเล็กๆ เนื่องจากค่ามาตรฐานความปลอดภัยเหมาะสำหรับเด็กมากกว่า วอลเปเปอร์ชนิดอื่น

วอลเปเปอร์แบบไวนิล (Vinyl wallpaper)
                เป็นวอลเปเปอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากลวดลาย สีและพื้นผิว มีความตื้น ลึก สวยงาม โดยเฉพาะลายเล็กๆ ที่ทำได้อย่างเหมือนจริง ที่สำคัญมีความทนทานสูง รองรับการขูดขีด ง่ายต่อการบำรุงรักษา

                วอลเปเปอร์ติดผนังสามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านวัสดุตกแต่งบ้านทั่วไป รวมถึงสามารถสั่งซื้อได้ตามอินเทอร์เน็ต สนนราคาขึ้นอยู่ลาย ความเก่าใหม่ ความสวยงามของลวดลาย ส่วนใหญ่ขายเป็นม้วน ซึ่งเราสามารถบอกขนาดห้องและให้ทางร้านคำนวณปริมาณของวอลเปเปอร์ที่ใช้ได้ เลย บางร้านรับติดตั้งราคาไม่แพงมีตั้งแต่เหมารวมกับคิดเป็นตารางเมตร เช่นตารางเมตรละ 150 เป็นต้น ส่วนราคาวอลเปเปอร์มีตั้งแต่ม้วนละ100 บาท ไปจนถึงหลักพันก็มีอยู่ที่วัสดุของวอลเปเปอร์

ข้อดีข้อเสียของการติดวอลเปเปอร์ติดผนัง              
                วอลเปเปอร์มีข้อดีคือสีและลวดลายทันสมัย สามารถเปลี่ยนหรือติดตั้งได้ง่าย ปกปิดร่องรอยบนพื้นผนังได้ดี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าการทาสี ที่สำคัญคือประหยัด จะมีข้อเสียอยู่บ้างคือการลอก-หลุด เป็นรอยแหว่งของวอลเปเปอร์เกิดขึ้นได้ บางครั้งอาจมีราขึ้นถ้าบ้านมีความชื้น เมื่อไม่ใช้แล้วสามารถลอกวอลเปเปอร์ออกได้ทันที แต่อาจจะทิ้งรอยไว้บนผนังบ้าง

เลือกซื้อวอลเปเปอร์ติดผนังอย่างไร ให้คุ้มค่าที่สุด
                การจะซื้อวอลเปเปอร์นั้น ควรพิจารณาในหลายๆอย่างด้วยกัน ทั้งนี้ก็เพื่อให้ได้วอลเปเปอร์ที่คุ้มค่าที่สุด ซึ่งก็มีเทคนิคในการเลือกซื้อดังนี้

1. เลือกจากขนาดของห้อง

                จะติดวอลเปเปอร์ให้ดูสวย ต้องพิจารณาจากขนาดของห้องด้วย โดยห้องขนาดใหญ่ควรเลือกวอลเปเปอร์ที่มีสีเข้มและลวดลายใหญ่ๆ เพื่อเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นให้กับห้อง และห้องขนาดเล็ก ควรเลือกวอลเปเปอร์ที่มีสีโทนสว่าง เพื่อให้ห้องดูสบายตาและกว้างขวางขึ้นนั่นเอง

2. เลือกจากแสงในห้อง

                แสง ก็เป็นสิ่งสำคัญในการเลือกวอลเปเปอร์เช่นกัน โดยหากห้องของคุณได้รับแสงสว่างอย่างเพียงพอและไม่ทึบจนเกินไป ก็ควรเลือกวอลเปเปอร์ที่มีสีเข้มหรือสีกลางๆ แต่หากห้องได้รับแสงสว่างน้อยและดูมืดทึบก็ควรเลือกวอลเปเปอร์สีอ่อนหรือโทน สีสว่างมากกว่า

3. เลือกจากสไตล์การตกแต่งห้อง

                คุณคงไม่อยากให้สไตล์การตกแต่งห้องกับวอลเปเปอร์ติดผนัง ดูขัดแย้งไปคนละทิศคนละทางหรอกจริงไหม ดังนั้นควรเลือกวอลเปเปอร์ให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งห้องมากที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้ดูกลมกลืนสุดๆ แล้ว ก็ยังทำให้ห้องดูทันสมัย ผ่อนคลายและสวยงามเป็นอย่างมากอีกด้วย นอกจากนี้ก็อย่าลืมเลือกให้กลมกลืนกับของตกแต่งภายในอื่นๆ ด้วยล่ะ

4. เลือกจากสีของเฟอร์นิเจอร์

                หลายคนอาจจะงงว่าการเลือกวอลเปเปอร์ เกี่ยวข้องอย่างไรกับสีของเฟอร์นิเจอร์ นั่นก็เพราะว่าการจะทำให้ห้องดูสวยและโดดเด่นขึ้นนั้น จะต้องเน้นสีสันที่ตัดกัน นั่นก็คือ หากเฟอร์นิเจอร์เป็นสีโทนเข้ม ก็ควรเลือกวอลเปเปอร์สีอ่อน และหากเฟอร์นิเจอร์เป็นสีโทนอ่อน ก็ควรเลือกวอลเปเปอร์สีเข้มนั่นเอง ซึ่งจะเห็นได้ว่า ห้องจะดูมีมิติมากขึ้น และดูไม่น่าเบื่ออีกด้วย

5. เลือกจากงบประมาณ

                และสุดท้ายก็คือการเลือกจากงบประมาณที่มีอยู่ เพราะวอลเปเปอร์มีหลายแบบหลายราคาด้วยกัน แต่ทางที่ดีควรเลือกซื้อวอลเปเปอร์ที่ไม่เกินงบจะดีกว่า เพื่อตัวคุณเองจะได้ไม่ต้องเกิดปัญหาทางการเงินในภายหลังนั่นเอง ซึ่งหากคุณมีงบน้อยเราขอแนะนำให้เลือกวอลเปเปอร์แบบม้วนหน้ากว้างกันเลย เพราะมีราคาถูก แถมเหมาะกับห้องขนาดใหญ่อีกด้วย

                ในยุคนี้ไม่ว่าบ้านไหนก็มักจะนิยมติดวอลเปเปอร์กับผนังห้อง เพื่อให้บ้านดูสวยงาม น่าอยู่กันทั้งนั้น แต่เนื่องจากวอลเปเปอร์มีหลายแบบหลายลวดลายด้วยกัน จึงควรเลือกอย่างเหมาะสม เพื่อให้กลมกลืนและเข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านที่สุด นอกจากนี้ก็อย่าลืมดูแลทำความสะอาดวอลเปเปอร์อยู่เสมอ เพราะวอลเปเปอร์อาจมีฝุ่นผงมาติดจนทำให้ดูหมดสวยได้ตลอดเวลานั่นเอง รู้แบบนี้แล้ว ก็ลองเลือกวอลเปเปอร์ติดผนังห้องของคุณให้เหมาะสมและคุ้มค่ากันดูนะ