อยากตกแต่งห้องนั่งเล่นให้สวยน่าอยู่ แต่มีงบน้อยทำอย่างไรดี ไม่ยาก babbaan.in มีไอเดียการตกแต่งห้องนั่งเล่นแบบประหยัดมาแนะนำกัน ซึ่งจะช่วยเนรมิตห้องนั่งเล่นที่ธรรมดาของคุณให้ดูสวยโดดเด่นขึ้นภายในพริบตา แถมได้บรรยากาศที่อบอุ่น เหมาะกับการผ่อนคลายและทำกิจกรรมร่วมกันในห้องครัวที่สุด เอาเป็นว่าไปดูแต่ละไอเดียกันเลย
1. มองหาไอเดียดีๆแล้วสำรวจสิ่งของภายในบ้าน
สำหรับคนที่ยังมองไม่ออกจริงๆว่าจะแต่งห้องนั่งเล่นอย่างไร วันว่างๆก็ลองมองหารูปในนิตยสาร หรือลองค้นหาดูในอินเตอร์เน็ต บางทีคุณอาจจะเจอแบบดีๆ สามารถทำได้ในราคาประหยัด จากนั้นตรวจดูว่าเราควรจะเปลี่ยนแปลงตกแต่งในส่วนไหนอย่างไร ค่อยๆดูไปทีละชิ้น แล้วลองสำรวจรอบๆบ้านว่ามีสิ่งไหนที่จะนำมาประยุกต์ตกแต่งห้องนั่งเล่นของเราได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็น แผ่นไม้ เศษวอลเปเปอร์ กระเบื้อง เศษผ้า ผ้าลูกไม้เก่าเก็บ สีทาบ้านที่เหลืออยู่ หรือถ้าหากสิ่งไหนดูเหมือนว่าไม่มีแน่แต่จำเป็นต้องซื้อในราคาประหยัดก็จัดหามา ส่วนเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนที่ซ่อมแซมแล้วมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งตัว ก็เอามาแปลงโฉมได้เลย เชื่อเถอะว่าในเวลาไม่กี่วัน คุณจะได้ห้องนั่งเล่นใหม่ที่สวยงามถูกใจแถมราคาประหยัดด้วย
2. สลับตำแหน่ง
บางทีการที่เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้นตั้งอยู่ที่เดิมนานๆก็อาจทำให้เกิดอาการชินตาหรือเบื่อๆ บางทีมันก็อาจถึงเวลาที่จะปรับเปลี่ยนได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการย้ายทีวีจากมุมหนึ่งมาเป็นอีกมุมหนึ่ง หรือย้ายโซฟาจากด้านซ้ายมาเป็นด้านขวา ขยับตู้หนังสือให้อยู่ใกล้กับโซฟาอีกนิด หรืออาจจะโยกย้ายเฟอร์นิเจอร์จากห้องอื่น มาแลกเปลี่ยนกันก็ได้ แบบนี้แหล่ะที่เป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้กับห้องโดยที่ไม่ต้องเสียเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ลองสลับตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั่งเล่นของคุณดูสิ แล้วจะพบว่ามันดูแปลกตาไปจริงๆ
3. สร้างห้องใหม่ด้วยรูปภาพ
เชื่อหรือไม่ว่ารูปภาพเพียงไม่กี่รูปอาจเปลี่ยนแปลงห้องให้ดูสดชื่นหรืออิ่มเอมใจได้ไม่น้อย เพราะรูปไม่ได้เป็นแค่เพียงที่เก็บความทรงจำเท่านั้น แต่ในเวลาเดียวกันยังสามารถนำมาใช้เป็นของตกแต่งห้องนั่งเล่นได้อย่างชิคๆเก๋ๆไม่แพ้ใคร ซึ่งคุณอาจนำรูปขนาดใหญ่ไปใส่กรอบแล้วติดที่ผนัง หรือนำรูปหลายๆใบมาแปะติดลงบนกระดาน แล้วเขียนด้วยถ้อยคำที่มีความหมาย และถ้ามีฝีมือหน่อยก็อาจร้อยเรียงกับเส้นลูกปัดหลากสีเป็นโมบายก่อนที่จะนำไปประดับบริเวณทางเข้าออก ทุกอย่างนี้ทำได้และประหยัด ในขณะเดียวกันยังสื่อความหมายดีๆให้คุณและคนในครอบครัวประทับใจในทุกครั้งที่เห็นอีกด้วย
4. ตกแต่งด้วยของแฮนด์เมด
สำหรับคนที่พอจะมีความคิดสร้างสรรค์ดีๆหรือมีความถนัดในเรื่องงานฝีมือ อย่าง การถักไหมพรม การเย็บผ้า การวาดรูป หรือการประดิษฐ์ชิ้นงานฝีมือดี แบบนี้อย่าได้เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้กับตัวเอง จัดการทำแล้วนำมาประดับบ้านได้ด้วยตัวเองเลย จะใช้ตั้งโชว์ จะติดผนัง จะทำผ้าม่าน ทำที่คลุมโต๊ะ ผ้ารองแก้ว ปลอกหมอนอิง หรือพรมปูพื้นผืนใหญ่เก๋ๆแค่นี้ก็ปลื้มใจทั้งคนทำและประทับใจผู้พบเห็นแล้ว
5. เติมความสดใสให้ห้องและเฟอร์นิเจอร์
หากสีห้องดูเริ่มซีด โซฟาตัวโปรดสีเริ่มหม่น ชั้นวางของเหมือนจะไปซะแล้ว รีบจัดการณ บัดนาว ไม่ว่าจะหาสีมาทาห้องใหม่ สปาโซฟาหรือเปลี่ยนใหม่ให้สีสดใส ปรับเอาโต๊ะวางของตัวเก่าออกแล้วเอาแจกันดอกไม้สวยๆใบใหญ่มาวางแทน ทุกสิ่งทุกอย่างทำได้หมดขอเพียงคุมโทนสีและคอนเซ็ปต์ไม่ให้โดดแค่นี้ห้องรับแขกอันแสนสดใสก็เป็นของคุณแล้ว แถมอยู่ไปได้อีกนานเลยด้วย
6. เปลี่ยนบรรยากาศให้ห้องหอมๆ
สำหรับห้องนั่งเล่นสุดแสนธรรมดา บางทีเราก็สามารถสร้างความโรแมนติกและกระตุ้นให้ชีวิตกระชุ่มกระชวยขึ้นได้ แค่เติมความหอมลงไป ไม่ว่าจะเป็น ดอกไม้แห้ง เทียนอโรมา หรือสมุนไพรที่มาพร้อมกับผลิตภัณฑ์สวยๆ แล้วนำของเหล่านี้มาตั้งวางไว้ตามจุดต่าง ๆ ทั้งมุมห้อง บนโต๊ะรับแขก ชั้นวางของ หรือติดไว้ที่ฝาผนัง ห้องของเราก็จะสดชื่น และจะให้ดีกว่านั้นอย่าลืมนำดอกไม้สดใส่แจกันมาวางประดับไว้ด้วยล่ะ
7. เติมความสว่างให้ห้องดูสดใส
สำหรับวิธีสุดท้ายที่อยากฝากไว้ก็คือ การเพิ่มความสว่างให้กับห้องนั่งเล่นที่คุณเองก็สามารถทำได้ เพราะหากห้องมันดูมัวๆสลัวๆความเหงาหงอยก็จะตามมา ทางที่ดีคือเลือกเพิ่มจำนวนดวงไฟภายในห้อง หรือไม่ก็ตกแต่งด้วยสีสว่าง อย่าง โทนสีขาว ครีม ส้ม เหลือง และอย่าลืมถ้าห้องมีหน้าต่างพยายามเปิดให้หมดทุกบาน เพื่อให้แสงจากภายนอกได้สาดส่องเข้ามาได้ อีกทั้งยังเป็นการระบายอากาศและความอับชื้นในห้องให้ออกไป เพียงแค่นี้ห้องรับแขกของคุณก็จะสว่าง โล่ง บรรยากาศสดชื่น และดูมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย
เป็นอย่างไรบ้างเอ่ย น่าสนใจไม่น้อยเลยใช่ไหม นอกจากประหยัดแล้ว ก็ยังทำให้ห้องนั่งเล่นดูสวยงาม น่าอยู่ ไม่แพ้ห้องนั่งเล่นที่ตกแต่งด้วยราคาแพงกันเลยทีเดียว สำหรับใครที่อยากให้ห้องนั่งเล่นของตนเองดูดี มีสีสันมากขึ้น ก็ลองงนำไอเดียเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในการตกแต่งกันดู รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน
Post A Comment:
0 comments: