วัสดุมุงหลังคาราคาประหยัดมีอะไรบ้าง มาดูรายละเอียดกัน!

        หลังคาคือส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของบ้าน ช่วยปกป้องความร้อน, น้ำฝน, ฝุ่นละออง รวมไปถึงสิ่งอันตรายต่างๆ ที่อาจตกลงมาจากบนอาคารที่อยู่สูงกว่า เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย วัสดุมุงหลังคาจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน ต้องดูเรื่องคุณภาพและความทนทานต่อทุกสภาวะอากาศเป็นหลัก นอกจากนี้การเลือกวัสดุมุงหลังคาบ้านยังต้องเน้นเรื่องสไตล์ที่เหมาะสมกับทั้งรูปแบบและสีสันของตัวบ้าน เพื่อให้ได้บรรยากาศตามที่เจ้าของบ้านต้องการ มาพร้อมราคาสมดุลกับงบประมาณที่มีอีกด้วย

วัสดุมุงหลังคาบ้านยอดนิยมมีกี่แบบ 

        ก่อนที่คุณจะทำหลังคาบ้าน ควรรู้ก่อนว่าวัสดุมุงหลังคาแบบไหนและใช้ประโยชน์ด้านใดได้บ้าง เพื่อให้คุณได้เลือกใช้อย่างถูกต้อง ตรงตามสไตล์บ้านของคุณ และให้การใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้ตรงใจมากที่สุด  ซึ่งวัสดุที่คนนิยมนำมามุงหลังคาหลักๆ คือ

1.หลังคากระเบื้องดินเผา

กระเบื้องดินเผาให้การใช้งานที่ดี น้ำหนักเบา ทนทาน โดยจะมีลักษณะเป็นแผ่นเล็กๆ ที่จะปูเรียบไปกับระแนงขนาด 1x1 นิ้ว ให้เต็มพื้นที่ ถูกแบ่งออกเป็นกระเบื้องหางมน, กระเบื้องว่าว และอาจจะมีลวดลายต่างๆ เพิ่มเข้ามา จากนั้นก็ปูทับกันเป็น 2 ชั้น และต้องมีตัวเสริมเพื่อกันน้ำรั่วเมื่อถึงฤดูฝน ซึ่งในปัจจุบันหลังคาลักษณะนี้ไม่นิยมนำมาใช้กับบ้านมากนัก เพราะการติดตั้งค่อนข้างเสียเวลา ต้องซื้อกระเบื้องมาเรียงต่อกันเป็นจำนวนมาก คนปูกระเบื้องต้องเป็นคนมีฝีมือพอสมควร เพื่อให้ได้ความสวยงามและน้ำไม่รั่วเข้าบ้าน เพราะกระเบื้องลักษณะนี้ทำให้น้ำรั่วเข้าใต้หลังคาง่ายมาก

2.หลังคาจากวัสดุธรรมชาติ

หลังคาประเภทนี้จะทำขึ้นจากไม้ เช่น ทำเป็นแป้นเกล็ดไม้หรือหลังคาไม้แบบบ้านทางภาคเหนือ เป็นต้น หลังคาลักษณะนี้จะเน้นเรื่องการปูและการทำแบบงานฝีมือเช่นกัน เพราะต้องนำไม้มาตัดขึ้นรูปให้มีลักษณะคล้ายกระเบื้องในขนาดที่เท่ากัน ให้บรรยากาศที่สวยและสดชื่น เหมาะสมกับบ้านไม้ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องรั่วง่าย ราคาสูง และเป็นเชื้อไฟชั้นดีเลยทีเดียว จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมในปัจจุบันมากนัก

3.หลังคาสังกะสี

สังกะสีถือว่าเป็นวัสดุมุงหลังคายอดนิยมช่วงหนึ่ง เพราะมีราคาถูกมาก น้ำหนักเบา เวลาปูหลังคาต้องใช้หลายๆ ผ่านมาปะติดปะต่อกัน แต่ก็ถือว่าติดตั้งได้ง่ายกว่าหลังคาทุกรูปแบบและเวลาจะรื้อทิ้งก็ง่ายด้วยเช่นกัน โดยส่วนใหญ่จะคิดราคาเป็นฟุต แต่ก็มีข้อเสียที่ไม่น่าใช้งาน คือ ดึงดูดความร้อนในเวลากลางวันได้ดีมาก ไม่ทนทานต่อฝนเมื่อโดนน้ำจึงเป็นสนิมและผุพังง่ายมาก ส่วนน้ำหนักที่เบาก็ให้อันตรายเมื่อต้องเจอลมหรือพายุ ก็พร้อมที่จะหลุดออกและอาจจะปลิวหายไปจนทำให้ผู้อื่นเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย 

4.หลังคาแผ่นเมทัลชีท

เมทัลชีท คือ สังกะสีคุณภาพที่ผ่านการพัฒนาให้มีจุดเด่นที่มากกว่าสังกะสีแบบเดิมๆ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย มีสีสันให้เลือกใช้งานอย่างหลากหลาย มีคุณสมบัติเพิ่มโฟมและฉนวนกันความร้อนเข้าไปภายใน เพื่อลดปัญหาเรื่องการดูดความร้อนเหมือนกับสังกะสีทั่วไป พร้อมผสมผสานโลหะเพื่อลดปัญหาเรื่องการเกิดสนิม จึงให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน นอกจากนี้ยังทนทานต่อการกัดกร่อนของน้ำฝนและน้ำค้างได้ดีมาก มีการอบและเคลือบสี เพื่อสะท้อนความร้อนออกไปจากบ้านได้อีกด้วย แต่หลังคาแบบเมทัลชีทมักจะได้รับความนิยมติดตั้งกับโรงงาน, โกดังสินค้า หรือออฟฟิศเท่านั้น ถ้าใช้กับบ้านก็มักจะเป็นสไตล์โมเดิร์น เพราะถึงจะผ่านการพัฒนามากขนาดไหน ตัวหลังคาก็ยังอมความร้อนอยู่ดี!

5.หลังคากระเบื้องแบบไฟเบอร์ซีเมนต์

กระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์หรือที่เรียกกันติดปากว่า "กระเบื้องลอนคู่" เป็นหนึ่งในวัสดุทำหลังคาที่กำลังได้รับความนิยม ไม่ว่าจะบ้านที่อยู่ในเมืองหรือนอกเมืองต่างก็เลือกใช้หลังคาชนิดนี้ เพราะทำมาจากไฟเบอร์ซีเมนต์ที่ไม่ผสมสารอันตรายอย่างแอสเบสตอสหรือสารใยหิน มีความแข็งแรงทนทานในระดับหนึ่ง โดดเด่นด้วยลอนที่ถูกพัฒนาให้กลายเป็นเคิฟลอนที่ให้ความสวยงามมากกว่าเดิม พร้อมเต็มเปี่ยมไปด้วยประโยชน์ใช้งาน และให้สีสันสดใสหลากหลายสีที่ผ่านการเคลือบสารกันแดดมาแล้วเป็นอย่างดี สีจึงไม่ซีดจางง่าย สามารถสะท้อนความร้อนกลับออกไปนอกบ้านได้อีกด้วย

6.หลังคาโปร่งแสง

กระเบื้องแบบโปร่งแสงหรือที่เรียกกันว่าไฟเบอร์กลาส ทำมาจากใยแก้วและโพลีเอสเตอร์ จากนั้นก็นำมาเข้าเครื่องรีดเพื่อขึ้นรูปให้เป็นแผ่นที่หนาเพียงแค่ 1.2 มิลลิเมตรเท่านั้น พร้อมเคลือบแผ่นฟิล์มเพื่อป้องกันแดดโดยเฉพาะ เพื่อให้เนื้อกระเบื้องมีความใสตลอดเวลา แสงแดดไม่สามารถทำร้ายให้กระเบื้องแตกหรือมีความมัวหมองได้ กระเบื้องชนิดนี้มีข้อดีที่สามารถส่องแสงสว่างได้ชัดเจนตลอดทั้งวัน จึงช่วยเรื่องประหยัดไฟภายในบ้านได้ดี แต่การติดตั้งส่วนใหญ่จะมีเพียงบางจุดของบ้านเท่านั้น โดยจุดที่นิยมติดคือจุดที่มีความอับทึบ แสงสว่างจากส่วนอื่นๆ เข้าไม่ถึง และมีการเพิ่มสีสันให้มีความสดใสมากขึ้นด้วยโทนสีเหลือง, เขียว, น้ำเงิน และน้ำตาล เป็นต้น

7.หลังคากระเบื้องแบบคอนกรีต

กระเบื้องชนิดนี้จะเหมาะกับการทำหลังคาทรงปั้นหยาโดยเฉพาะ ซึ่งหลังคาทรงปั้นหยาได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มบ้านราคาหลักหลายล้านบาท เพราะให้ความสวยงาม กันลม, ฝน และแดดได้ดี หมดปัญหาเรื่องรั่วซึมและเชื้อรา พร้อมสะท้อนควาามร้อนออกจากตัวบ้านได้อย่างดีเยี่ยม ที่สำคัญคือมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าหลังคาชนิดอื่นๆ แต่ด้วยความที่มีส่วนผสมของซีเมนต์ น้ำหนักหลังคาจึงค่อนข้างมาก ดังนั้นการติดตั้งจึงจำเป็นต้องใช้คานเหล็กอย่างหนาและแข็งแรงมาก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหักพังง่ายในอนาคต ราคาของการทำหลังคาประเภทนี้จึงค่อนข้างสูง

8.หลังคาเซรามิค

กระเบื้องแบบเซรามิคเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นทุกวัน เพราะเมื่อติดตั้งแล้วมีความสวยเงางาม พื้นผิวของกระเบื้องมีการเคลือบสารป้องกันแดดและฝนมาแล้วเป็นอย่างดี จึงทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย สีสันสดใสยาวนาน หน้าร้อนถ้ามีฝุ่นหรือคราบที่กระเบื้อง เมื่อถึงหน้าฝนก็จะเกิดการชะล้างจากน้ำฝนแบบอัตโนมัติ และไม่ค่อยทิ้งคราบน้ำกวนใจ ไม่ทำให้เกิดการรั่วซึม ไม่ขึ้นรา และทำให้บ้านยังคงสวยสง่าและสดใสเหมือนวันแรกๆ ที่สร้างเสร็จอีกด้วย


ขนาดและราคาของกระเบื้องหลังคาแต่ละแบบ

• หลังคากระเบื้องดินเผารุ่นธรรมดา ขนาด 14x20x1 ซม. น้ำหนัก 0.60 กิโลกรัม 50 ชิ้นต่อ 1 ตารางเมตร และขนาด 14x25x1 ซม. น้ำหนัก 0.70 กิโลกรัม 50 ชิ้นต่อ 1ตารางเมตร ราคาแผ่นละ 7-8 บาท นอกจากนี้ยังรุ่นพิเศษลวดลายสวยงามและครอบสัน ราคาจะมีตั้งแต่ 8 บาทขึ้นไป จนถึงราคา 20 บาทต่อแผ่น 
• หลังคาจากวัสดุธรรมชาติ เช่น หลังคาไม้ซีดาร์ที่มีความทนทานเทียบเท่าไม้สัก แต่ราคาถูกกว่า น้ำหนักไม้เมื่อปูหลังคาเสร็จแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 10-12 กิโลกรัม ส่วนราคานั้นจะต่างกันออกไปตามแต่ละแห่ง เพราะบางร้านขายเป็นกล่อง, บางร้านขายเป็นกิโลกรัม และบางร้านขายเป็นแผ่น
• หลังคาสังกะสี, สังกะสีขาว ลอนเล็กและลอนใหญ่ มีขนาดตั้งแต่ 6-10 ฟุต ราคา 80-1,500 บาท (แล้วแต่ขนาดและสีสัน)
• หลังคาแผ่นเมทัลชีท หลังคาเมทัลชีทจะราคาตั้งแต่แผ่นละ 50 บาทขึ้นไป ส่วนโครงหลังคาจะเริ่มต้นที่ 1,000 บาทต่อตารางเมตร  
• หลังคากระเบื้องแบบไฟเบอร์ซีเมนต์ ราคาแบบสั้นต่อแผ่นจะอยู่ที่ 40-70 บาท (ราคาจะต่างกันไปตามขนาดและสีสันของกระเบื้อง) ราคาแบบยาว 50x120x0.55 อยู่ที่แผ่นละ 60-100 บาท 
• หลังคาโปร่งแสงแบบใส (รุ่นนิยม) ขนาด 0.54x1.20 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม ราคาแผ่นละ 260-400 บาท 
• หลังคากระเบื้องคอนกรีตของ SCG ขนาดใช้งาน 11 แผ่นต่อ 1 ตารางเมตร ตกอยู่แผ่นละ 13 บาท ส่วนตัวครอบ 1 ชิ้น น้ำหนัก 4.8 กิโลกรัม ตกราคาตัวละ 50 บาทขึ้นไป (แล้วแต่ขนาด, การใช้งาน และยี่ห้อ) 
• หลังคาเซรามิค CELICA roof Curf จาก SCG ขนาด 33x42x1 ซม. น้ำหนัก 3 กิโลกรัมต่อ 1 แผ่น ใน 1 ตารางเมตรใช้ทั้งหมด 10-11 แผ่น ราคาจะตกแผ่นละ 50-500 บาท (ตามขนาดและสี)

เรื่องควรรู้และพิจารณาให้ดีก่อนทำหลังคาบ้าน

1.ระยะความชันของหลังคา
วัสดุทำหลังคาแต่ละชนิด เมื่อนำมามุงแล้วจะให้ความชันที่ต่างกันออกไป ดังนั้นเจ้าของบ้านจึงควรรู้ด้วยว่าวัสดุมุงหลังคาแต่ละแบบจะให้ความชันประมาณเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้ความชันที่ช่างทำออกมาต่ำกว่ามาตรฐาน แล้วอาจสร้างสารพัดปัญหากวนใจตามมาด้วย  ถ้าเป็นกระเบื้องแผ่นลอนจะมีความชันต่ำมากกว่ากระเบื้องแผ่นเรียบ กระเบื้องลอนเซรามิคจะมุงด้วยความชันต่ำเพียง 17 องศา แต่แผ่นเรียบจะให้ความชันที่ 25-40 องศา ส่วนหลังคาเมทัลชีทจะให้ความชันต่ำที่สุดหรือแทบจะเป็นเพียงหลังคาที่ราบเรียบเลยก็ได้เช่นกัน

2.โครงสร้างหลังคา
โครงหลังคาเป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะถ้าเลือกไม่ดี ไม่แข็งแรง อาจพาให้เกิดความเสียหายที่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัยในอนาคตได้ เช่น ถ้าเป็นหลังคาที่มีความหนักอย่างคอนกรีตหรือเซรามิค ควรเลือกเป็นโครงหลังคาเหล็กที่ราคาถูก ติดตั้งง่าย และรองรับน้ำหนักหลังคาเหล่านี้ได้ดี แต่ถ้าเป็นหลังคาไม้ก็ใช้โครงสร้างไม้ที่จะให้บรรยากาศเป็นธรรมชาติและกลมกลืนกัน

3.อุปกรณ์เสริมใต้หลังคา
อุปกรณ์เสริม คือ แผ่นรองใต้หลังคาเพื่อป้องกันน้ำรั่วซึมในหลังคาบางแบบ หรือ แผ่นหลังคาที่มีการเสริมฉนวนโฟม PU, ใยแก้ว, แผ่น PVC หรือแผ่นอลูมิเนียมฟลอยด์ เพื่อลดความร้อนและดูดซับเสียงได้ดีกว่าเดิม

4.สไตล์บ้าน
เรื่องสำคัญมากๆ อีกหนึ่งเรื่องก่อนจะติดตั้งหลังคาบ้าน คือ การเลือกจากสไตล์บ้านให้เหมาะสม เช่น ถ้าเป็นบ้านไม้ทรงไทยก็ควรเป็นหลังคาเกล็ดไม้แบบทรงจั่ว หรือถ้าเป็นบ้านเดี่ยวรุ่นใหม่ก็ควรเลือกเป็นกระเบื้องคอนกรีตแบบหลังคาปั้นหยา และถ้าบ้านเป็นสไตล์โมเดิร์นก็ควรใช้เป็นหลังคาเมทัลชีทที่มีความราบเรียบ เป็นต้น

ไอเดียหลังคาบ้านสวยและโดดเด่นในแบบต่างๆ