แก้ไขประตูไม้หดตัวด้วย ไม้บังใบ

         ประตูไม้เป็นประตู้ที่นิยมที่สุดในการนำมาประกอบสร้างบ้าน ถือได้ว่านิยมทุกพื้นที่ ทั่วประเทศก็ว่าได้ ประตูไม้ มีหลายแบบหลายขนาดตามแต่ ที่สรรหามาประดับตกแต่งบ้าน เนื้อหาของไม้ก็เป็นส่วนสำคัญในการตัดสินใจเลือก รูปแบบลายต่าง ๆ ทั้งที่แบบแกะลาย ฝั่งกระจก แล้วบางบ้านยังคงต้องเลือกเป็นประตูไม้มงคลต่าง ๆ ต้องดูให้เหมาะสมกับอาคารบ้านเรือน และ ราคาที่จะต้องเสียไป ยิ่งในปัจจุบัน ความแข็งแรง ความทนทานของประตูต้องเพิ่มกันให้มากยิ่งขึ้น นอกจากใช้งานปิด เปิดเป็นหลัก ก็ต้องใช้งานในการที่จะป้องกันโจร ขโมยอีกด้วย

ปัญหาหลัก ของประตูไม้นั้น

คือ การขยายตัวและ หดตัว  สาเหตุก็มาจากอุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูการ ยิ่งถ้าเป็นหน้าฝนก็จะมีทั้งความร้อน ความชื่น และ ความเย็นในช่วงเวลาใกล้เคียงกันได้  ปัญหาที่พบบ่อยในหน้าฝนคือประตูขยายตัว ปิดไม่ได้ ใส่กลอนไม่ได้ ต้องแก้ปัญหากันอยู่บ่อย ๆ ไป  พอแก้ปัญหากันได้ไม่นานนัก ก็เข้าสู่หน้าหนาว ด้วยความเป็นหน้าหนาวจึงมีความแห้ง ความชื่นต่ำ ทำให้ประตูหดตัวลงเล็กน้อยจากที่เคยปิดได้มิด ก็จะมีช่องว่างเกิดขึ้น ทำให้ไม่สวยงามต้องมาแก้ปัญหากันใหม่  ถ้าเรามัวแต่แก้ปัญหาจากตัวของประตูนั้นอาจจะไม่จบสิ้น เราต้องมาแก้ปัญหาส่วนประกอบของประตูอาจจะง่าย และได้ผลที่ดีกว่า แก้ปัญหาด้วยการใช้ไม้บังใบ

ขอบคุณภาพตามเครดิตครับ

             การเสริมประตูด้วย ไม้บังใบเป็นการแก้ปัญหาได้ดีครอบคลุม ทั้งประตูยืดบวม และ ประตูหด  ส่วนไม้บังใบประตูคืออะไร ไม้บังใบเป็นภาษาช่างที่ไว้เรียก ขอบเสริมประตู ในช่องที่ห่างให้สนิทขึ้น คล้าย กับการทำ วงกบประตูเล็ก ๆ เพิ่มอีก 1 วงซ้อนกันขึ้นมา จะเสริมขึ้นเฉพาะด้าน หรือ เสริมขึ้นทั้ง 3 ด้านก็ได้ ตามแต่สวยงามและเหมาะสม  หลายคนกำลังสงสัยว่าประตูมี 4 ด้านทำไม่ไม่ทำทุกด้าน ทำไมถึงต้องทำแค่ 3 ด้านแล้วอีกด้าน ทิ้งไว้ทำไม เพราะอีกด้านเป็นด้านที่เราจะใส่บานพับประตู เราจึงไม่ต้องไปสนใจอะไรกับส่วนนี้  การทำบังใบเสริมขึ้นมานั้นจะทำรูปแบบ สี่เหลี่ยม เป็นหลักเพื่อให้ เวลาที่ปิดประตูเข้ามาจะได้แนบสนิทกัน การทำบังใบเสริมนั้น ต้องใช้ความชำนาญพอสมควร  ในการที่จะหามุมให้สนิทพอดี กะระยะความห่างให้พอเหมาะและ ความสวยงามที่ไม่ทำให้ประตูดูรกจนเกินไป

วิธีการทำบังใบ ประตู เริ่มต้นด้วย
1.    หาไม้ที่เป็นลักษณะคล้ายกับขอบคิ้วไม้ ถ้าเราหาไม่ได้ก็จะใช้คิ้วไม้มาดัดแปลงก็ไม่ผิดอะไร วัดขนาดความห่างของประตูและวงกับให้ดีว่าห่างกี่มิลลิเมตร หรือ หางกี่เซนติเมตร หาความหนาของไม้ที่จะมาทำให้พอดีกัน ถ้าทำทั้ง 3 ด้านก็หามาทั้งหมด วัดความห่าง ความสวยงาม เทียบระดับให้เหมาะสมตัดลองทาบให้พอดี ขัดตกแต่งไม่ให้เกิดเสี้ยนไม้ สร้างความสวยงามให้ดีที่สุด

2.    การวางไม้บังใบนั้น ส่วนใหญ่จะยืดติดกับตัววงกบประตู ในเวลาที่เราปิดประตู ส่วนของความห่างจะสามารถมองเห็นได้ เราต้องเสริมตรงส่วนนั้นให้สวยงาม ต้องวัดความห่างให้แม่นยำ เพราะถ้าเกิดคำนวนมากไป หรือ น้อยไป จะมีผลต่อการใส่กลอนได้  แถมต้องสังเกตด้วยว่า ในเวลาหน้าหนาวประตูหดมากขนาดไหน หน้าฝนประตูขยายมากน้อยเพียงใด  อาจจะต้องคิดเผื่อตรงนี้ เพื่อจะได้ไม่ต้องตามมาแก้ไขในทีหลัง

3.    การทำสีไม้ของไม้บังใบประตู ควรทำสีก่อนการติดตั้ง เผื่อให้สีไม้เสมือนเดียวกันกับวงกบและสีเข้ากับประตู  ถ้าเรามาทำสีที่หลัง ไม้บังใบบางส่วนที่เราได้ติดตั้งไป  สีอาจจะเข้าไม่ถึงซอกไม้ ทำให้เห็นรอยที่ต่างของชิ้นงาน แล้วถ้าเราเอาสีมาทาทีหลัง อาจจะทำเปื้อนบริเวณพื้นได้

         ส่วนต่อมาที่ต้องคำนึงคือการใส่ลูกบิด กลอนประตู ส่วนนี้มีโอกาสที่จะขยับตัวตามการยืดหรือหดตัวของประตู เราคงต้องเผื่อช่องในการใส่กลอนลงไปอีกนิดหน่อยตามความเหมาะสม อาจจะ 1-3 มิลลิเมตร ก็ตามแต่ว่า ประตูนั้น ๆ จะขยาย หรือหดมากน้อยเพียงใด

              ปัญหาการปิดประตูไม่สนิทก็จะหมดไป ประตูก็จะกลับมาสวยงามดังเดิม  อย่างเช่นประตูห้องน้ำแต่ก่อนนั้นก็ล้วนทำมาจากไม้ ซึ่งการแก้ปัญหานั้น ไม่สามารถแก้กันได้ อย่างถาวร เพราะห้องน้ำมีความชื่นสูงตลอดปี มีโอกาสที่จะทำให้ประตูบวมได้ตลอดเวลา เดี๋ยวจึงมีการเปลี่ยนมาใช้ประตูพลาสติกกันแทบทั้งหมด หมดปัญหา ประตูบวม ประตูหด ใส่กลอนไม่ได้ ก็ไม่มากวนอีก

                 การติดตั้งประตูที่เป็นไม้ ประตูสมัยใหม่มักจะใช้ไม้ที่ยังหนุ่มเนื่องด้วยราคาไม่แพงมากนัก  จึงทำให้มีการยืดหดตัวของประตูสูง ทำให้เกิดปัญหาเรื่องการปิด เปิดประตู  การจะตัดสินใจเลือกประตูให้ใช้งานอย่างเหมาะสมกับสถานที่ ต้องคำนึง ส่วนที่ประตูจะเจอผลกระทบจากแดด หรือเจอฝนสาด เราต้องดูให้รอบคอบ  ถ้าเราเลือกมาใช้งานผิดประเภท  คงจะต้องเสียเงินจ้างช่างมาซ่อม แล้วงานซ่อมลักษณะแบบนี้ ราคาก็ไม่ถูกเลย ค่าแรง อาจจะมากกว่าค่าประตูด้วยซ้ำ ควรต้องวางแผนกันให้ดี