ต้องยอมรับว่าธุรกิจร้านเสริมสวยถือเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันที่สูงมาก มีร้านเปิดเป็นจำนวนมากทั้งในห้างสรรพสินค้าหรือตามชุมชนทั่วไป อีกทั้งมีเรทราคาและการบริการที่แตกต่างกัน การช่วงชิงลูกค้าให้มาใช้บริการนั้นจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และเพื่อให้มีลูกค้ามากลายเป็นลูกค้าประจำนั้นนอกจากฝีมือที่ดี การบริการที่ยอดเยี่ยมแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่าบรรยากาศภายในร้านก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกันที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาที่ร้านของเรา
วันนี้เราจึงขอเสนอวิธีการจัดร้านเสริมสวยโดยอาศัยหลักของฮวงจุ้ยเข้ามาประกอบพร้อมแบบแปลนของร้านเสริมสวยให้ทุกๆท่านนำไปประยุกต์เพื่อจัดตกแต่งร้านให้มีความสวยงามและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นกันครับ
1.กระจก
กระจกตรงหน้าเคาน์เตอร์สำหรับมองหน้าตรงไม่ควรใช้กระจกใหญ่แผ่นเดียวทั้งแนวสำหรับทุกที่นั่ง แต่ควรแบ่งกระจกออกเป็นล็อกๆแยกเป็นของแต่ละที่นั่งไป เพราะกระจกที่ใหญ่เป็นแผ่นเดียวจะทำให้เราสามารถมองเห็นคนข้างๆได้ ทำให้ทั้งลูกค้าและช่างเสริมสวยเสียสมาธิเหลือบไปมองคนข้างๆได้ง่ายจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือความผิดพลาดระหว่างทำผมได้ นอกจากนี้ยังทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว รู้สึกอึดอัดเพราะการจ้องมองจากคนข้างๆด้วยเช่นกัน ส่วนกระจกแผ่นใหญ่นั้นควรติดไว้ข้างหลังเพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นผมข้างหลังได้สะดวกแล้วยังทำให้ร้านดูโปร่งโล่งขึ้นอีกทำให้ร้านดูไม่อึดอัด เหมาะอย่างมากกับร้านที่มีพื้นที่จำกัด
นอกจากนี้การจัดวางกระจกไม่ควรตั้งให้หันออกไปหน้าร้านตรงๆ เพราะจะทำให้กระจกได้รับแสงจากภายนอกในเวลากลางวันแล้วเกิดการสะท้อนแสงจนแสบตาทั้งในและนอกร้านได้
2.แสงและสี
ร้านเสริมสวยควรใช้สีตกแต่งโทนสว่างเช่นสีขาว จะช่วยให้ร้านดูสะอาดสะอ้าน โปร่งสบายน่าใช้บริการ และจัดแสงไฟให้มีความสว่างทั่วทั้งร้าน ให้ร้านเกิดเงาน้อยที่สุดเพื่อป้องกันอันตรายจากการการสะดุดล้ม และอุบัติเหตุจากการใช้ของมีคม นอกจากนี้ร้านที่สว่างจะช่วยให้เห็นใบหน้าและทรงผมได้ชัดเจน ทำให้สามารถทำผมได้โดยไม่มีข้อผิดพลาดนั่นเอง
3.การจัดวางประตู
ไม่ควรจัดวางประตูให้ตรงกับบริเวณที่นั่งทำผม เพราะเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาจะทำให้เกิดการสะดุดล้มได้ง่าย และเมื่อเปิดประตูยังทำให้ฝุ่นละอองหรือความร้อนพัดเข้าหน้าลูกค้าที่นั่งทำผมอยู่ได้ด้วย
ควรจัดประตูไว้ทางซ้าย(วัดจากการยืนอยู่ในร้านและหันหน้าออกไปทางหน้าร้าน) เพราะตามหลักฮวงจุ้ยจะเชื่อว่าเป็นตำแหน่งทิศของโชคลาภ จะนำพาเงินทองเข้าร้านมาให้เจ้าของ หรือหากเป็นประตูบานเลื่อนอาจตั้งไว้ตรงกลางก็ได้
4.แยกส่วนเปียกออกมาเป็นสัดส่วน
ร้านเสริมสวยนั้นต่างจากร้านตัดผมที่มีจุดสระผมสำหรับคุณผู้หญิงด้วย ควรแยกเอาไว้เป็นสัดส่วนไม่ปะปนกับจุดอื่นๆ เพราะเตียงสระผมนั้นจะมีการใช้น้ำเพื่อสระผมด้วย ระหว่างสระผมอาจจะเกิดน้ำกระเซ็นหรือหกเลอะพื้นได้ หากไม่แยกไว้เป็นสัดเป็นส่วนอาจทำให้เกิดปัญหาลื่นล้มบาดเจ็บ น้ำกระเซ็นถูกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเสียหาย หรือเกิดปัญหาความชื้นได้
5. การจัดวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นของที่อยู่คู่มากับคนไทยอย่างยาวนาน หลายๆร้านนั้นก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆไว้บูชาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน แต่การจัดวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในร้านนั้นไม่ควรมีมากจนเกินไปเพราะจะทำให้บรรยากาศของร้านกลายเป็นตำหนักทรงเจ้า ดูไม่น่าใช้บริการ นอกจากนี้ยังไม่ควรจัดวางกระจัดกระจาย เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
นอกจากนี้ยังไม่ควรตั้งไว้ใกล้หรือติดกับผนังห้องน้ำ เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจตกต่ำ โดนคนมองข้าม ไม่เจริญรุ่งเรืองได้
เมื่อเราได้ทราบเทคนิคการจัดร้านเสริมสวยในส่วนต่างๆกันแล้ว ต่อไปเรามามาดูแบบแปลนของร้านเสริมสวยแบบต่างๆ เพื่อนำมาใช้เป็นไอเดียวในการจัดร้านกันครับ
เหมาะกับพื้นที่ที่เป็นมุมตึกที่มีขนาดเล็กและขอบข้างหนึ่งเป็นแนวทะแยง เป็นแบบแปลนที่เน้นการใช้ประโยชน์ให้รับลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยพื้นที่ข้างหนึ่งจะมีการตั้งกระจกเงาสองด้านเพื่อให้รับลูกค้าเพิ่มขึ้นได้อีกเท่าตัว
วันนี้เราจึงขอเสนอวิธีการจัดร้านเสริมสวยโดยอาศัยหลักของฮวงจุ้ยเข้ามาประกอบพร้อมแบบแปลนของร้านเสริมสวยให้ทุกๆท่านนำไปประยุกต์เพื่อจัดตกแต่งร้านให้มีความสวยงามและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นกันครับ
1.กระจก
แยกกระจกสำหรับแต่ละที่นั่ง ไม่รวมกัน |
กระจกตรงหน้าเคาน์เตอร์สำหรับมองหน้าตรงไม่ควรใช้กระจกใหญ่แผ่นเดียวทั้งแนวสำหรับทุกที่นั่ง แต่ควรแบ่งกระจกออกเป็นล็อกๆแยกเป็นของแต่ละที่นั่งไป เพราะกระจกที่ใหญ่เป็นแผ่นเดียวจะทำให้เราสามารถมองเห็นคนข้างๆได้ ทำให้ทั้งลูกค้าและช่างเสริมสวยเสียสมาธิเหลือบไปมองคนข้างๆได้ง่ายจนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือความผิดพลาดระหว่างทำผมได้ นอกจากนี้ยังทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกไม่เป็นส่วนตัว รู้สึกอึดอัดเพราะการจ้องมองจากคนข้างๆด้วยเช่นกัน ส่วนกระจกแผ่นใหญ่นั้นควรติดไว้ข้างหลังเพื่อให้ลูกค้าสามารถเห็นผมข้างหลังได้สะดวกแล้วยังทำให้ร้านดูโปร่งโล่งขึ้นอีกทำให้ร้านดูไม่อึดอัด เหมาะอย่างมากกับร้านที่มีพื้นที่จำกัด
นอกจากนี้การจัดวางกระจกไม่ควรตั้งให้หันออกไปหน้าร้านตรงๆ เพราะจะทำให้กระจกได้รับแสงจากภายนอกในเวลากลางวันแล้วเกิดการสะท้อนแสงจนแสบตาทั้งในและนอกร้านได้
2.แสงและสี
จัดร้านด้วยโทนสีสว่างทำให้น่าเข้า |
3.การจัดวางประตู
ไม่ควรจัดวางประตูให้ตรงกับบริเวณที่นั่งทำผม เพราะเมื่อลูกค้าเดินเข้ามาจะทำให้เกิดการสะดุดล้มได้ง่าย และเมื่อเปิดประตูยังทำให้ฝุ่นละอองหรือความร้อนพัดเข้าหน้าลูกค้าที่นั่งทำผมอยู่ได้ด้วย
ควรจัดประตูไว้ทางซ้าย(วัดจากการยืนอยู่ในร้านและหันหน้าออกไปทางหน้าร้าน) เพราะตามหลักฮวงจุ้ยจะเชื่อว่าเป็นตำแหน่งทิศของโชคลาภ จะนำพาเงินทองเข้าร้านมาให้เจ้าของ หรือหากเป็นประตูบานเลื่อนอาจตั้งไว้ตรงกลางก็ได้
4.แยกส่วนเปียกออกมาเป็นสัดส่วน
ร้านเสริมสวยนั้นต่างจากร้านตัดผมที่มีจุดสระผมสำหรับคุณผู้หญิงด้วย ควรแยกเอาไว้เป็นสัดส่วนไม่ปะปนกับจุดอื่นๆ เพราะเตียงสระผมนั้นจะมีการใช้น้ำเพื่อสระผมด้วย ระหว่างสระผมอาจจะเกิดน้ำกระเซ็นหรือหกเลอะพื้นได้ หากไม่แยกไว้เป็นสัดเป็นส่วนอาจทำให้เกิดปัญหาลื่นล้มบาดเจ็บ น้ำกระเซ็นถูกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆเสียหาย หรือเกิดปัญหาความชื้นได้
5. การจัดวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความเชื่อเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นของที่อยู่คู่มากับคนไทยอย่างยาวนาน หลายๆร้านนั้นก็มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆไว้บูชาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน แต่การจัดวางสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในร้านนั้นไม่ควรมีมากจนเกินไปเพราะจะทำให้บรรยากาศของร้านกลายเป็นตำหนักทรงเจ้า ดูไม่น่าใช้บริการ นอกจากนี้ยังไม่ควรจัดวางกระจัดกระจาย เพราะจะทำให้ดูไม่เป็นระเบียบเรียบร้อย
นอกจากนี้ยังไม่ควรตั้งไว้ใกล้หรือติดกับผนังห้องน้ำ เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจตกต่ำ โดนคนมองข้าม ไม่เจริญรุ่งเรืองได้
1.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
เหมาะสำหรับที่ที่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างและลักษณะเป็นตัว L มีการจัดวางเคาน์เตอร์ไว้ส่วนหน้าร้านเพื่อตอนรับและสอบถามรายละเอียดจากลูกค้า มีการแบ่งส่วนพื้นที่สำหรับให้บริการเป็นส่วนต่างๆแยกกันอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นส่วน นั่งเล่น ตัดผม อบไอน้ำ สระผม ทำให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย รู้สึกถึงความเป็นส่วนตัวมากขึ้นและทำงานได้ง่าย
2.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
3.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
แบบแปลนนี้จะมีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าทรงยาวเหมาะสำหรับอาคารพาณิชย์ที่มีหน้าร้านแคบแต่ยาว มีการแบ่งสัดส่วนโดยให้หน้าร้านเป็นจุดต้อนรับลูกค้าและนั่งพัก ส่วนกลางร้านมีการกันฉากแบ่งออกเป็นส่วนๆช่วยให้ลูกค้ารู้สึกถึงความเป็นส่วน และมีพื้นที่รับลูกค้าได้มากขึ้น
4.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
เหมาะสำหรับอาคารที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก มีการจัดวางเตียงสระผมและส่วนทำผมไว้ติดกันยาวทั้งแถวเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากทุกส่วนได้มากที่สุด และมีพื้นที่สำหรับห้องน้ำให้บริการลูกค้าได้เช่นกัน
5.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
เป็นแบบแปลนสำหรับอาคารสองชั้นที่มีบันไดอยู่ตรงกลางอาคาร โดยใช้ตัวบันไดช่วยแบ่งสัดส่วนของรให้ส่วนสระผมแยกออกจากส่วนอื่นๆทำให้ร้านดูเป็นสัดส่วน มีระเบียบมากขึ้น
6.
แบบร้านเสริมสวย |
เหมาะสำหรับพื้นที่ภายในห้างซึ่งไม่มีแสงธรรมชาติมาช่วยให้ความสว่าง มีส่วนต้อนรับแยกจากส่วนของการทำผมชัดเจน สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้บริการ ตกแต่งร้านด้วยสีขาวและดำทำให้ดูเรียบหรูเหมาะกับกลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ
7.
แบบลักษณะทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีหน้ากว้างมากแต่สั้น เช่นส่วนหน้าของตึก มีการใช้กระจกใสแทนผนังทึบช่วยให้แสงส่องเข้ามาในตัวร้านได้ลดการใช้ไฟฟ้าได้ดี มีการแยกพื้นที่ร้านออกเป็นสองส่วนทำให้รับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มโดยแยกทำผมเป็นกลุ่มๆได้
8.
เหมาะสำหรับพื่นที่ในห้างสรรพสินค้าที่ไม่มีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา การจัดร้านจะจัดเก้าอี้เป็นคู่ๆสำหรับลูกค้าที่มากับเพื่อนสามารถข้างกันและพูดคุยทำผมไปพร้อมกันได้ บริเวณกลางร้านอาจจัดเป็นจุดนั่งรอหรือตั้งกระจกและทำเป็นจุดอบไปน้ำก็ได้เช่นกัน
9.
แบบแปลนนี้เป็นการจัดร้านแบบทั่วไปโดยให้ส่วนทำผมอยู่ทางซ้ายของร้านและจุดนั่งรออยู่ทางขวา แต่เพิ่มความสดชื่นให้กับร้านด้วยการประดับตกแต่งต้นไม้ให้มีสีเขียวของธรรมชาติแซมเพิ่มเข้าในร้านด้วย
10.
ตัวแบบแปลนมีหน้ากว้างที่แคบแต่ยาว เหมาะกับพื่นที่ที่เป็นตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ มีการแยกสัดส่วนของส่วนสระผมและห้องน้ำเป็นอย่างดีทำให้ดูเป็นสัดส่วนป้องกันอันตรายจากการทำงาน
12.
แบบสุดท้ายนี้เหมาะกับร้านเสริมสวยที่มีพื้นที่ขนาดเล็ก ใช้การแบ่งส่วนหน้าร้านและในร้านด้วยการกั้นฉาก ภายในตัวร้านใช้การจัดวางส่วนต่างๆให้เป็นระเบียบแทนการกั้นห้องเพื่อให้ใช้ทุกส่วนได้อย่างคุ้มค่า
7.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
8.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
9.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
10.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
12.
แบบแปลนร้านเสริมสวย |
จบไปแล้วสำหรับแบบร้านเสริมสวยแบบต่างๆซึ่งผู้อ่านทุกๆท่านสามารถนำไปประยุกต์เพื่อจัดแต่งร้านให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีอยู่ได้ ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการแต่งร้านนะครับ
Post A Comment:
0 comments: