เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าแสงสว่างภายในบ้านเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้บ้านสวยขึ้น โดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่แม้แต่สนามหญ้าหน้าบ้านก็ยังต้องมีแสงสว่างหลายสีผสมผสานกัน เพื่อให้สวนสวยได้โชว์ความตระการตาไม่แพ้หน้าบ้านของคนอื่นๆ ดังนั้นการมองหาหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้านจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าของบ้านไม่ควรมองข้ามเลยแม้แต่น้อย วันนี้ babbaan จึงขอแนะนำวิธีการเลือกหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้าน อ่านบทความนี้จบก็รับรองได้เลยว่าคุณจะสามารถกลับไปเลือกหลอดไฟที่ตรงต่อบรรยากาศภายในบ้านของคุณอย่างแน่นอน!

เลือกหลอดไฟบ้าน


โทนสีหลอดไฟ ช่วยสร้างสรรค์บรรยากาศภายในห้อง

           โทนสีของหลอดไฟแต่ละสีสามารถบ่งบอกได้ถึงบรรยากาศและอุณหภูมิภายในห้อง จึงควรเริ่มใส่ใจตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกสีหลอดไฟ เพื่อให้ตรงต่อความต้องการของผู้ซื้อมากที่สุด โดยสีของหลอดไฟที่นิยมใช้กันมากในกลุ่มตกแต่งบ้าน คือ


  • สีโทน Warm white จะออกเป็นสีเหลืองอ่อนไปจนถึงเหลืองส้ม สร้างบรรยากาศที่แสนอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับการติดตั้งในห้องรับแขกและห้องนอน พื้นที่เพื่อการพักผ่อนและต้องการความอบอุ่นเพื่อให้การนอนหลับมีความสุขมากยิ่งขึ้น 
  • สีโทน Cool white เป็นสีโทนเย็นออกขาวนวล ให้ความรู้สึกสบายสายตา เย็นใจ แต่จะไม่ถึงกับขาวสว่างมาก ยังคงมีความเป็น Warm white นิดๆ จึงเหมาะกับการติดตั้งในห้องรับแขก, ห้องนอน และห้องน้ำ เพื่อให้ได้บรรยากาศที่ปลอดภัยและดูอบอุ่นได้เช่นกัน
  • สีโทน Day light เป็นสีสว่างออกขาว จนบางครั้งก็ออกเป็นโทนขาวอมฟ้า ให้บรรยากาศที่ดูเป็นธรรมชาติ สว่างไสว สบายตา เหมาะกับการติดตั้งในห้องครัว, โซนแต่งตัว และห้องทำงาน เพราะจะให้แสงสีที่ชัดเจน มองเห็นทุกอย่างภายในห้องได้สมบูรณ์แบบมากขึ้น
เลือกหลอดไฟบ้าน

          ถ้าต้องการจะดูว่าหลอดที่ซื้อให้แสงสว่างที่ต้องการหรือไม่ ก็สามารถดูได้จากข้างกล่องหลอดไฟที่จะระบุสีของหลอดเอาไว้ค่อนข้างชัดเจนเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังบอกถึงอุณหภูมิของไฟในแต่ละสีไว้ เพื่อให้ผู้ที่ซื้อไปใช้ได้คำนวณอุณหภูมิภายในห้องหลังจากการติดหลอดไฟได้อย่างถูกต้องอีกด้วย



          เมื่อได้แสงของหลอดตามสไตล์ที่ต้องการแล้ว ต่อไปคือการดูตัวหลอดไฟที่เคยใช้อยู่ว่าเป็นแบบไหน เพื่อให้การซื้อใหม่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากเดิมจนใช้ไม่ได้ นอกจากนี้ก่อนจะถอดหลอดเก่าออก ควรดูทิศทางการติดตั้งให้ถูกต้อง เพราะไฟบางตัวอาจปรับองศาได้ เช่น ไฟส่องต่างๆ หรือแม้แต่ไฟหลุมบางรูปแบบก็สามารถปรับทิศทางของแสงได้ ตรงนี้ควรจำไว้จะได้ไม่ต้องเกิดปัญหาติดหลอดไปแล้ว ทิศทางแสงไม่เหมือนเดิม ทำให้ห้องเกิดบรรยากาศที่ผิดเพี้ยน จนอาจพาให้คนที่อยู่ภายในห้องรู้สึกไม่ดีได้เช่นกัน

หลอดไฟมีให้เลือกกี่แบบ?

เลือกหลอดไฟบ้าน


       ถ้าต้องการติดหลอดไฟใหม่ ก็แน่นอนคือคุณต้องรู้ก่อนว่าหลอดไฟมีกี่แบบ แล้วแบบไหนที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด และให้ประโยชน์อย่างไรได้บ้าง ซึ่งหลอดที่คนไทยนิยมนำมาตกแต่งบ้านจะมีเด่นๆ ด้วยกัน 4 แบบ คือ


  1. หลอดไส้ หรือ Incandescent Lamp หลอดที่เราเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก ให้โทนสีเหลืองออกส้ม และมีความร้อนค่อนข้างมากเมื่อเปิดใช้งาน ที่สำคัญคืออายุการใช้งานค่อนข้างสั้น แต่เป็นที่นิยมเพราะมีราคาถูก หาซื้อง่าย เมื่อต้องเปลี่ยนใหม่ก็แค่หมุนออกจากขั้วก็เสร็จทันใจ ไม่มีอะไรยุ่งยาก แต่มีข้อเสีย คือ ค่อนข้างกินไฟ, ทำให้เกิดความร้อนภายในห้อง, ระเบิดได้ง่าย และเกิดความเสื่อมเร็วมาก แบบนี้ต่อให้ราคาถูกแต่ต้องมาเปลี่ยนบ่อยครั้งก็ถือว่าไม่ดีเท่าที่ควร ปัจจุบันหลอดไส้ถูกพัฒนาให้มีออกมาขายหลากหลายรูปแบบ เช่น หลอดทรงเปลวเทียน, หลอดทรงกลม, หลอดทรงเห็ด และหลอดแบบสปอร์ตไลท์ที่แตกออกมาเป็นแบบต่างๆ อีกมากมาย แต่ข้อดีของหลอดชนิดนี้นอกจากราคาที่ถูก นั่นคือสามารถใช้ได้ทั้งกระแสไฟตรงและกระแสสลับ ทำให้การติดตั้งง่ายขึ้น ที่สำคัญคือถูกพัฒนาให้มีแสงสีขาว, สีฟ้า และสีแดงเข้ามาเพิ่มเพื่อทำให้เกิดประโยชน์ในการใช้งานมากยิ่งขึ้น
  2. หลอดฮาโลเจน เป็นหลอดที่มีการบรรจุสารฮาโลเจนเข้าไป โดยด้านในหลอดมีไส้เป็นทังสเตน เมื่อเกิดความร้อนก็จะเปล่งแสงสว่างออกมา เมื่อแสงไปกระทบกับสารฮาโลเจนที่เคลือบอยู่ด้านในของหลอดไฟก็จะเกิดเป็นแสงสีออกมา มีข้อดี คือ สารตัวนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการระเหิดหายไปของไส้หลอด จึงทำให้ใช้งานได้ยาวนานกว่าหลอดไส้ทั่วไปและกินไฟค่อนข้างน้อยกว่า โดยจะเน้นให้แสงสีขาวนวลและขาวสว่าง เพราะสารที่เคลือบอยู่กับตัวหลอดจะเป็นสีขาว แต่ก็มีข้อเสียที่ทำให้หลอดชนิดนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมในปัจจุบัน คือ เมื่อนำไปใช้งานคู่กับอุปกรณ์หรี่ไฟหรืออุปกรณ์อื่นๆ มักจะทำให้อายุการใช้งานน้อยลงทันที ที่สำคัญ คือ อุณหภูมิของหลอดฮาโลเจนค่อนข้างสูงมาก จึงไม่ค่อยนิยมติดตั้งในบ้านเท่าที่ควร แต่ส่วนมากจะถูกติดตั้งภายในโรงงานต่างๆ เพราะราคาถูกและไม่เปลืองไฟ
  3. หลอดประเภทความดันไอต่ำหรือหลอดแบบปล่อยประจุ ที่ได้รับความนิยมติดตั้งภายในบ้านอยู่ช่วงหนึ่ง โดยหลอดลักษณะนี้จะมีแตกออกเป็นหลอดความดันไอต่ำและไอสูงที่แยกออกมาเป็นหลอดแต่ละแบบอีกเป็นจำนวนมาก จึงขอแบ่งให้เห็นชัดเจน ดังนี้
          หลอดความดันไอต่ำ คือ


  • หลอดฟลูออเรสเซ้นส์ (Fluorescent) สามารถให้สีสันของแสงที่มากถึง 3 แบบ คือ Warm white, Cool white และ Day light หลอดจะมีลักษณะกลมและมีความยาว โดยภายในจะเคลือบสารเรืองแสงแล้วส่งผ่านประจุเพื่อทำให้เกิดแสง เป็นหลอดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตระกูลไอต่ำ ราคาไม่แพง ใช้พลังไฟมากแต่ก็ยังกินไฟน้อยกว่าหลอดไส้และให้อายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า
  • หลอดคอมแพคท์ฟลูออเรสเซนต์ (Compact Fluorescent) เป็นหลอดที่มาพร้อมรูปทรงหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นแบบเกลียว, แบบแท่งยาว และแบบแท่งสั้น หรือที่เรียกกันว่าหลอดตะเกียบ เป็นต้น มีความสะดวกที่สามารถเสียบขั้วแล้วหมุนก็พร้อมใช้งาน ถูกผลิตขึ้นมาแทนที่หลอดฟลูออเรสเซ้นส์แบบยาว โดยจะมีบัลลาสต์แบบอิเล็กทรอนิกส์อยู่ด้านใน ทำให้สะดวกต่อการติดตั้งอย่างมาก มีหลากหลายขนาดตั้งแต่ 9 วัตต์ ไปจนถึง 25 วัตต์ เป็นอีกหลอดไฟที่ได้รับความนิยมนำมาแต่งบ้าน เพราะประหยัดไฟและแสงสว่างที่ดี        
  • หลอดโซเดียมไอต่ำ (Low Pressure Sodium) เป็นหลอดที่มักจะพบในไฟทางข้างถนน ร้านอาหาร หรือบ้านที่ต้องการความเก๋ในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ เพราะจะให้สีโทนออกเหลืองเข้มมาก แต่ก็มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าทั้ง 2 หลอดข้างต้นในตระกูลเดียวกัน  
         หลอดความดันไอสูง คือ

  • หลอดโซเดียมไอสูง (High Pressure Sodium) เป็นหลอดที่เหมาะกับการใช้ในพื้นที่กว้าง เช่น สนามหญ้า, สนามกีฬา หรือพื้นที่สาธารณะต่างๆ นิยมนำมาใช้งานแทนหลอดฟลูออเรสเซ้นท์ เพราะสามารถกระจายแสงได้ในวงกว้างและให้อายุการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน
  • หลอดเมทัลฮาไลด์ (Metal Halide) เป็นหลอดที่เน้นเรื่องการทำให้ทุกสีที่อยู่ภายใต้หลอดชนิดนี้มีความคมเข้มและชัดเจนมากยิ่งขึ้น เหมาะกับร้านค้า, ร้านอาหาร, ห้างสรรพสินค้า หรือแกลอรี่ต่างๆ ที่ต้องการเน้นให้คนที่เข้ามาเห็นสินค้าหรืองานภาพที่อยู่ตรงหน้าโดดเด่นกว่าปกติ 
      4.หลอดแบบ LED (Light Emitting Diode) คือ หลอดพระเอก-นางเอกตัวจริงที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปัจจุบัน โดยเฉพาะกับการตกแต่งบ้านและการใช้งานภายในบ้านทุกรูปแบบ เพราะสามารถให้แสงสีที่หลากหลายและช่วยเรื่องประหยัดไฟได้ดีมาก ระบบการทำงานของหลอดชนิดนี้เป็นแบบง่ายๆ คือ การยอมให้แสงผ่านอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่อยู่ภายในหลอดและมีสารกึ่งนำไฟฟ้าในตัวหลอด เมื่อกระแสไฟฟ้าผ่านหลอดชนิดนี้ก็เปล่งแสงออกมาทันที ต่อให้กระแสไฟเพียงน้อยนิดผ่านก็ทำให้เกิดแสงได จึงเป็นหลอดประหยัดไฟที่ควรค่าแก่การติดตั้งภายในบ้านมากที่สุด นอกจากนี้ยังให้อายุการใช้งานที่สูงสุดกว่า 50,000-60,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว และไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพียงแต่หลอด LED จะมีราคาค่อนข้างสูงพอสมควร เนื่องมาจากกระบวนการผลิตที่ค่อนข้างพิถีพิถันและต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตั้งภายในหลอด แต่เมื่อเทียบกับเรื่องค่าไฟแล้วก็ถือว่าคุ้มค่าพอสมควร

สร้างบรรยากาศให้เหมาะสมด้วยแสงไฟ

        เมื่อมีข้อมูลเรื่องหลอดไฟที่ทำให้เข้าใจแล้วว่าคุณควรใช้หลอดไฟแบบไหนให้เหมาะสมกับบ้าน ต่อไปลองมาดูกันว่าถ้าต้องการสร้างบรรยากาศที่ดีในแต่ละห้อง ควรเลือกใช้ไฟประเภทใดบ้าง

เลือกหลอดไฟบ้าน

1.ห้องนั่งเล่น/ห้องรับแขก 
        เริ่มต้นจากห้องแรกที่เมื่อเราเดินเข้าบ้านแล้วมักจะต้องเจอห้องนี้ก่อนเสมอ คือ ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก เราควรเลือกแสงไฟโทนสี Warm white ที่ให้บรรยากาศสบายๆ ผ่อนคลาย ดูเป็นมิตร พูดคุยหรือนั่งเล่นอย่างมีความสุขและเพลิดเพลิน ให้ความสว่างที่มีความสมดุลกันทั้งห้อง ปรับลดได้ เหมาะกับการติดตั้งไฟเพดาน, โคมไฟ ,ไฟตกแต่งตามผนังและตู้โชว์ต่างๆ

เลือกหลอดไฟบ้าน


2.ห้องครัว
        ห้องครัวและห้องรับประทานอาหารมักจะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ควรเลือกเป็นหลอดโทน Cool white และ Day light เพราะโซนครัวต้องทำอาหารและทำกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องการแสงไฟสว่างมาก เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน ส่วนโต๊ะอาหารอาจจะใช้เป็นโคมไฟเพดานแบบ Cool white หรือ Warm white ได้ เพื่อส่องอาหารให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น

เลือกหลอดไฟบ้าน


3.ห้องทำงาน
        เป็นอีกหนึ่งห้องที่จำเป็นต้องสว่าง เพื่อให้การอ่านหนังสือ, การเขียนหนังสือ หรือการพิมพ์งานต่างๆ รวมไปถึงการเล่นคอมพิวเตอร์กับโน๊ตบุ๊คมีความชัดเจน ไม่ทำร้ายสายตามากจนเกินไป ควรใช้เป็นไฟเพดาน, ไฟส่องผนัง และไฟตั้งโต๊ะในโทน Cool white และ Day light เพื่อให้มองเห็นตัวหนังสือชัดเจนและกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกตื่นตัวอยู่เสมอ

เลือกหลอดไฟบ้าน


4.ห้องน้ำ
      ห้องน้ำเป็นโซนส่วนตัวที่สามารถใช้แสงได้ตามความชอบ แต่ถ้าจะให้ดีควรเป็นแสงที่มีความสว่างชัดเจน เพราะเป็นส่วนใช้งานที่ค่อนข้างมีอันตรายถ้าแสงไม่สว่างพอ จึงควรเน้นโทนสี Cool white หรือ Warm white เลือกใช้เป็นไฟเพดานที่ส่องสว่างอย่างทั่วถึงและไฟซ่อนผนังหรือหลังกระจกก็ได้เช่นกัน

เลือกหลอดไฟบ้าน


5.ห้องนอน
       ห้องแห่งการพักผ่อน เบาสบาย สร้างความสุขในแบบที่เป็นส่วนตัว ต้องสร้างบรรยากาศที่เมื่อหัวถึงหมอนก็ควรนอนหลับได้ทันที ดังนั้นจึงควรใช้แสงสี Warm white โดยเน้นเป็นโคมไฟเพดานและตั้งโต๊ะ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายที่ช่วยให้ง่วงนอนได้เป็นอย่างดี

        ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาความรู้ดีๆ เรื่องการตกแต่งบ้านด้วยแสงไฟ ก็สามารถเข้ามาอ่านความรู้เหล่านี้แล้วนำไปประกอบการตัดสินใจ และให้คุณได้เข้าใจการใช้หลอดไฟสร้างบรรยากาศได้ง่ายมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญไม่แพ้การเลือกหลอดไฟ คือ การดูกำลังวัตต์ให้ดี เพื่อให้ได้ทั้งแสงที่เหมาะสมและไม่ต้องกังวลเรื่องค่าไฟในแต่ละเดือนอีกด้วย

Post A Comment:

0 comments:

babbaan.in V. Powered by Blogger.