แต่งบ้านเองอย่างไรไม่ให้พลาด! มาอ่านเทคนิคดีๆ ก่อนลงมือทำ

         บ้านคือวิมานของเรา จึงจำเป็นต้องตกแต่งบ้านให้สวยงาม แต่ครั้นจะจ้างนักออกแบบมาตกแต่งก็อาจจะเสียเงินไปไม่น้อย โดยเฉพาะบ้านที่หลังไม่ใหญ่มาก เจ้าของบ้านสามารถที่จะตกแต่งบ้านได้ด้วยตัวเอง แต่ก็อย่าลืมที่จะจัดให้ถูกต้อง เพื่อไม่ให้การแต่งบ้านพลาดจนทำให้บ้านดูมืด อับชื้น ไม่น่าอยู่ หรือจัดผิดทิศผิดทางจนทำให้บรรยากาศภายในบ้านไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนี้บางบ้านก็อาจจะย้ายเข้ามาใหม่แล้วต้องการวิธีแต่งบ้านแบบง่ายๆ ด้วยตัวเอง แต่ดูดีในระยะเวลาที่รวดเร็ว ถ้าคุณกำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้อยู่  babbaan มีเทคนิคดีๆ มาแนะนำค่ะ

แต่งบ้านเองอย่างไรไม่ให้พลาด! มาอ่านเทคนิคดีๆ ก่อนลงมือทำ

1.ทำพื้นที่แต่งตัว

เริ่มจากการทำพื้นที่ห้องแต่งตัวก่อนส่วนอื่น เพราะเราจำเป็นต้องสวมใส่เสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายต่างๆ เพื่อออกจากบ้านไปทำงานทุกวัน ดังนั้นลองมองหามุมที่เหมาะสมในห้องนอน แต่ถ้าห้องนอนเล็กก็ให้หามุมหนึ่งภายในบ้านที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าและทำมุมแต่งตัวได้อย่างเหมาะสม คุณสามารถนำตู้เสื้อผ้ามาวางหรือถ้าต้องการความเก๋และประหยัด ก็เลือกเป็นราวแขวนผ้าที่ดูดีมาแขวนที่ผนังหรือมาวางแทนตู้ พร้อมหาฉากกั้นแบบพับมาเป็นตัวบังจุดที่เราแต่งตัว พร้อมจัดเก็บเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ถ้าเป็นชั้นห้อยเสื้อผ้าก็ให้หากล่องมาใส่เครื่องแต่งกายอื่นๆ เช่น ชุดชั้นใน, เข็มขัด, ถุงเท้า หรือชุดนอน เป็นต้น แล้วสอดเก็บไว้ใต้ราวแขวนและจัดระเบียบให้เรียบร้อย ส่วนผ้าที่ขึ้นเรียงบนราวแขวนควรเป็นเสื้อผ้าที่ใช้งานบ่อย เพื่อให้การหยิบมาใช้งานเป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น


2.จัดเก็บของในห้องน้ำด้วยตะกร้า

ห้องน้ำเป็นส่วนหนึ่งที่มีของใช้ส่วนตัวค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเหล่าเครื่องอาบน้ำทั้งหลาย ผ้าขนหนูแห้ง ทิชชู่ น้ำยาล้างห้องน้ำ และอีกหลากหลายของใช้ ดังนั้นคุณจึงควรมีตะกร้าเก๋ๆ ใบใหญ่เพื่อจัดเก็บของเหล่านี้ แยกออกเป็นตะกร้าผ้าเช็ดตัวแห้งยังไม่ได้ใช้กับแบบใช้แล้ว รวมไปถึงตะกร้าผ้าเพื่อใส่เสื้อผ้าใช้แล้วเก็บไว้ซัก รวมไปถึงตะกร้าใส่ของใช้ในห้องน้ำที่เป็นของใหม่ยังไม่ได้ใช้ เพื่อเป็นการจัดเก็บของให้เป็นที่เป็นทาง ไม่เกะกะภายในห้องน้ำ หยิบใช้งานง่าย และไม่กินพื้นที่นอกห้องน้ำอีกด้วย

3.หาที่แขวนสุดชิค

ที่แขวนสุดชิคที่ไม่ว่าจะเป็นแบบโลหะ, ไม้ หรือพลาสติก เลือกที่เหมาะสมกับรูปแบบการแต่งบ้านของคุณ อาจจะเลือกจากสีสัน, ดีไซน์ หรือวัสดุ จากนั้นก็นำมาติดไว้ตรงบริเวณที่เหมาะสม เช่น ทางเข้าประตูหน้าบ้าน, ในห้องนอน, โซนห้องนั่งเล่น หรือในห้องครัว เพื่อนำมาแขวนของใช้ต่างๆ ให้อยู่ถูกที่และเป็นระเบียบ การห้อยก็ควรห้อยอย่างเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่ง, เสื้อผ้า, หมวก, กระเป๋า หรือเครื่องครัว เป็นต้น ที่แขวนจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่ช่วยทำให้คุณจัดเก็บของแล้วทำให้บ้านดูน่ามองมากกว่าเดิม

4.จัดเครื่องใช้ไฟฟ้าให้เข้าที่

เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ควรจัดเก็บให้เข้าที่ โดยเฉพาะภายในห้องครัวที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก ไม่ว่าจะตู้เย็น, หม้อหุงข้าว, กาต้มน้ำร้อน และกะทะไฟฟ้า ควรอยู่ตรงจุดที่มีปลั๊กพร้อมเสียบใช้งาน แต่ก็ไม่ควรอยู่ตรงที่มีความร้อนปะทะกันมากจนเกินไป เช่น ตู้เย็นไม่ควรอยู่ใกล้หม้อหุงข้าวที่พร้อมปล่อยความร้อนในขณะหุงออกมาตลอดเวลา เพราะอาจทำให้ตู้เย็นต้องทำงานหนักมากขึ้น ดังนั้นจึงควรนำตู้เย็นไปเก็บในมุมติดผนังแยกตัวออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นอื่น เช่นเดียวกับเครื่องซักผ้าที่ควรอยู่ในห้องซักล้างหรือมุมหลังบ้านที่ใกล้กับก๊อกน้ำ, ที่ระบายน้ำทิ้ง และเป็นพื้นที่แห้ง เพื่อให้การใช้งานสะดวกและปลอดภัยที่สุด

5.ทำห้องนอนให้น่านอน

ห้องนอนคือโซนส่วนตัวที่คุณไม่ควรพลาด ไม่ควรทำให้ห้องนอนรกจนดูไม่สบายตาหรือมีกลิ่นอับชื้นมากเกินไป เพราะอาจทำให้คุณรู้สึกเครียด นอนไม่หลับ หรือกังวลจากเรื่องห้องรกและดูสกปรกมากจนรู้สึกไม่ดี ดังนั้นห้องนอนควรตกแต่งให้โปร่ง กว้างขวาง และใช้ไฟโทนสีออกเหลืองอมส้มหรือเหลืองนวล เพื่อทำให้เกิดความผ่อนคลาย รู้สึกสบายใจ และพร้อมที่จะหลับอย่างมีความสุขที่สุด

สำหรับคนที่ย้ายบ้านมาใหม่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มจัดตรงไหนก่อนดี ลองทำตามวิธีง่ายๆ ดังนี้

1.เริ่มต้นจากห้องนอน

จุดแรกที่คุณควรทำก่อนและทำทันทีเมื่อย้ายเข้าบ้านใหม่ คือ ห้องนอนของคุณเอง เพราะเป็นโซนที่คุณต้องพักผ่อนและเติมพลังให้เต็มที่เพื่อลุกมาจัดบ้านทั้งหลังต่อไป และภายในคืนที่คุณย้าย คุณก็จำเป็นต้องนอนในห้อง ดังนั้นจัดห้องนอนให้เข้าที่ก่อนห้องอื่นๆ ได้เลย เมื่อเวลาเข้านอนจะได้ไม่รู้สึกกังวล จะหยิบของใช้ก็หาง่าย และตื่นเช้ามาก็ไม่ต้องมานั่งหงุดหงิดเพราะเดินเตะนั่น ชนนี่ไปเรื่อยอีกด้วย

2.ต่อด้วยห้องน้ำ

ห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งจุดที่คุณต้องใช้ เมื่อจัดของในห้องนอนเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เข้าไปจัดที่ห้องน้ำต่อ วางของใช้ให้ครบครัน เพื่อให้การหาของใช้เป็นเรื่องที่ง่ายมากยิ่งขึ้น เมื่อจัดของจนรู้สึกเหนื่อยคุณจะได้เข้ามาอาบน้ำและทำธุระส่วนตัวต่างๆ อย่างสะดวก

3.จัดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อไป

เมื่อทั้ง 2 ห้องถูกจัดเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็คือการจัดเหล่าเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ให้เข้าที่ คุณควรยกกล่องและของใช้ไปวางไว้ตามจุดที่ควรอยู่ เพื่อให้การเปิดกล่องออกมาแล้วนำมาจัดวางสะดวกมากยิ่งขึ้น ของไม่ปนกันจนน่าปวดหัวและสามารถจัดไปวางตามจุดต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและครบครัน วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณจัดของได้ง่ายและเร็วมากขึ้น

4.ตกแต่งห้องอื่นต่อไปเรื่อยๆ 

เมื่อจัดทุกอย่างข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ให้ไล่จัดห้องอื่นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อนมากจนเหนื่อย เพราะบ้านเรามักจะเปลี่ยนแปลงกันอยู่เรื่อยๆ โดยเริ่มต้นจากการจัดเฟอร์นิเจอร์ขนาดเล็กไปหาเฟอร์นิเจอร์ขนาดใหญ่ แล้วค่อยมาจบที่ของตกแต่งต่อไป

       ถ้าคุณกำลังต้องการความรู้ในเรื่องการตกแต่งบ้านไม่ให้พลาดด้วยฝีมือของตัวคุณเอง หรือต้องการวิธีจัดของแบบไม่ทำให้คุณหัวหมุนมากในวันย้ายเข้า ลองมาดูวิธีเหล่านี้สิคะ รับรองว่าจะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้นและช่วยทำให้การจัดบ้านไม่ต้องง้อเหล่านักออกแบบให้เสียงบประมาณสูงอีกต่อไป