ปัญหาหน้าฝนของบ้านหลายหลังคงจะไม่พ้นฝนรั่ว ฝนซึม ฝนสาดเข้ามาในที่พักอาศัย เริ่มต้นด้วยหลังคาที่อาจจะมีรอยร้าวที่เห็นแบบง่าย ๆ รอยรั่วที่มองเห็นแล้วรอช่างมาซ่อม เรื่องเหล่านี้ เห็นจุดบกพร่องก็แก้ปัญหาไม่ยากไม่เย็นจนเกินไป แต่บางปัญหา แก้ยังไงก็ยังไม่เจอต้นตอของปัญหา อย่างในกรณีน้ำซึม ตามจุดต่าง ๆ เราต้องมาไล่ดูตามจุดที่ซึม ว่าซึมได้อย่างไร มองหาจุดที่มาก็แก้ไขไปแล้วก็ยังซึมอีก ปัญหาตรงจุดเดิมที่แก้ยาก เพราะน้ำซึมมักจะย้ายจุดไหลไปได้ทุกทาง เราต้องแก้ปัญหา และ ป้องกันปัญหาทั้งหมด ตามหาต้นตอของปัญหาที่เกิดอย่างแท้จริงให้เจอ ไม่เช่นนั้นการแก้ปัญหาจะหาจุดเสร็จสิ้นไม่เจอ  อย่างน้ำที่ซึมตามขอบหน้าต่าง เราแก้ตรงที่เรามองเห็นพอฝนตก ฝนสาดมาอีกรอบ ก็ ซึมตรงจุดใหม่ เราจึงต้องแก้โดยการไม้ให้ฝนตก ฝนสาดโดนหน้าต่างทั้งบาน จึงจะแก้ปัญหาได้ จบได้หมด แล้ววิธีทางแก้ เป็นอย่างไร ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่เท่าไหร่ เรามี วิธีมาบอก
เมื่อหน้าต่างของบ้านเรา ถูกฝนที่ตกซัดสาดเข้ามา ก็ อาจจะมีปัญหาซึมของน้ำที่เข้ามาเราก็มีวิธีแก้มาฝากดังนี้


ซิลิโคนแก้ปัญหาน้ำซึม
ซิลิโคนแก้ปัญหาน้ำซึม

1.ใช้ยาแนวซิลิโคลนที่มีขายตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไป มีทั้งลักษณะเป็นแท่งสีขาว หรือ สีใส สามารถใช้ได้เหมือนกันหมด บีบอัดตัวซิลิโคลนเข้าตามขอบหน้าต่าง โดยรอบ พยายามอัดให้มาก ๆ ให้เข้าถึงด้านในของวงกบขอบหน้าต่างให้หมดทั้งด้านนอกตัวบ้าน และด้านในตัวบ้าน  ก็จะเป็นการช่วยป้องกันฝนซึมได้  วิธีนี้ ใช้งบประมาณ ไม่แพงและใช้เวลาไม่นานสามารถทำเองได้  ถ้าเราเห็นรอยรั่วซึมไม่มากนัก  คำนวณต่อหน้าต่าง 1 บานก็อาจจะใช้งบไม่ถึงหนึ่งร้อยบาท เป็นวิธีการแก้ปัญหาได้ รวดเร็วฉันไว ทันเหตุการณ์เป็นที่สุด


ทำกันสาดป้องกันน้ำซึม
ทำกันสาดป้องกันน้ำซึม
2.ทำกันสาด ถ้าการใช้วิธีแรกยังมีการรั่วซึมอยู่เพราะเนื่องมาจากรอยแตกร้าวมากเพราะอาจจะมีส่วนที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่ และ การไหลซึมของน้ำอาจจะมาตามแนวที่เรามองไม่เห็นด้วย ก็ ต้องลงทุนเพิ่มกันเล็กน้อย ด้วยการทำกันสาดแบบเล็ก ๆ พอดีหน้าต่าง แบบนี้ก็สามารถกันได้ทั้ง แดด ลมฝน ไปในตัว เป็นการแก้ปัญหาระยะยาวที่ ได้ผลเยี่ยมเป็นอันดับต้น ๆ ราคาในการทำนั้นก็ขึ้นอยู่กับวัสดุอุปกรณ์ เริ่มต้นคงหลักพันบาท ยิ่งปัจจุบันมีการทำสำเร็จพร้อมขาย มีทั้งแบบใช้หลังคาแบบลอนคู่ที่เหมือนหลังคาบ้าน และ แบบหลังคาเมทัลชีท ราคาอาจจะถูกลงมาบ้าง บวกค่าช่างเข้าไปแล้ว ก็อาจจะอยู่ที่ ประมาณ 3-5,000  บาทเลยทีเดียว

ก่อปูนทำกันสาด
ก่อปูนทำกันสาด
3.ก่อปูนขอบหน้าต่าง ถ้าเกิดว่า 2 วิธีแรกที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะด้วยวิธีแรกกันน้ำซึมได้ไม่หมด  ส่วนวิธีที่ 2 อาคารบ้านเรือนไม่สามารถต่อออกไปได้ เพราะเลยอาณาเขตของตัวบ้านสถานที่เป็นตัวบังคับ  ต้องใช้วิธีการปูนปั้นเป็นลักษณะของการตกแต่งขอบหน้าต่างโชว์ไปในตัว ลักษณะนี้ จะใช้พื้นที่น้อย และ สามารถกันน้ำซึมได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าเกิดมีฝนตกอย่างหนัก ฝนสาดอย่างรุนแรงก็ ต้องใช้ตัวช่วยในการบัง ลักษณะคล้าย กับม่านบังแดดที่ม้วนได้เวลาบังแดดหน้ารถ ติดตามแนวยาวลงมา เวลาใช้ ก็เพียงแค่ดึงลง ทำที่เกี่ยวได้ด้านล่าง พอไม่ใช้ก็ม้วนเก็บขึ้นด้านบน สะดวกสบาย ใช้พื้นที่น้อย และ ยังสามารถใช้เป็นที่บังแดดเวลาแดดส่องเข้ามาได้อีกด้วย วิธีนี้ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแต่ทำขึ้นอยู่กับความต้องการในการที่ทำให้สวยงามแบบไหน ยิ่งสวยงาม และ มีการเสริมลูกเล่นมาก ๆ ก็จะมีราคาสูง ถึง หน้าต่างช่องละ 7,000 - 10,000 .- บาทก็เป็นได้ วิธีนี้จะแพงที่สุด แต่ก็ได้โชว์ความงามตามแต่จะสรรสร้างด้วย

                จริง ๆ แล้วก็ยังมีอีกมายหลายวิธีทีสามารถป้องกันฝนสาด น้ำซึมได้ แต่ทุกวิธีนั้น คงต้องใช้เงินในการทำเป็นส่วนใหญ่ ยิ่งบ้านหลังไหนสวย ๆ ใหญ่ ๆ คงมีวิธีการที่จะป้องกันฝนที่จะสาดเข้ามาได้เป็นอย่างดี และ ตกแต่งกันแบบสุดสวยเพื่อโชว์ความงามของตัวบ้านไปด้วย  อันนี้ก็แล้วแต่ชอบของเจ้าของบ้านเป็นหลักด้วย

             ในช่วงหน้าฝนแบบนี้ เราอาจจะไม่ได้กลัวแค่ฝนตกเพียงอย่างเดียว อาจจะต้องกลัวลมที่พัดมาตามพายุด้วย ในการป้องกันฝนสาดเข้ามาในบ้าน ต้องเตรียมพร้อมให้ดี เพราะถ้าฝนที่ตกลงมาแล้วเกิดอาการ รั่ว หรือซึมเข้าบ้านเรามาเมื่อไหร่ อาจจะทำให้ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเราเสียหายได้ จุดไหนที่เสียต้องรีบซ่อม จุดไหนที่ดูแล้วใกล้จะเสียก็ต้องรีบวางแผนแก้ปัญหา ยิ่งถ้าเรารู้ว่าจะต้องเสียแน่ ๆ เราควรซ่อมบำรุง รักษากันก่อน ก็อาจจะไม่นำพากันเสียไปทั้งหมด เป็นการยืดอายุการใช้งานในส่วนอื่น ๆ ด้วย การปล่อยปละละเลยในเรื่องแบบนี้นั้น มันอาจจะไม่ใช่เครื่องเรื่องฝนรัวทำข้าวของเสียหายธรรมดา อาจจะทำให้สุขภาพจิตของผู้อยู่อาศัยเสียไปด้วย ถ้าเราสนใจและใส่ใจเพิ่มอีกสักนิด บ้านเล็ก ๆ ต้องการความอบอุ่นก็ ไม่ไม่มีแค่เพียงความอบอุ่น แต่ยังคงมีความสุขมากเพิ่มขึ้นอีกด้วย

Post A Comment:

0 comments:

babbaan.in V. Powered by Blogger.